Home  »  Reviews   »   รีวิว Honda CB300R 2018 ลองให้หายข้องใจ…ว่าทำไมต้อง Neo Sports Café คราฟต์ๆๆ

รีวิว Honda CB300R 2018 ลองให้หายข้องใจ…ว่าทำไมต้อง Neo Sports Café คราฟต์ๆๆ

รีวิว Honda CB300R 2018 ลองให้หายข้องใจ...ว่าทำไมต้อง Neo Sports Café คราฟต์ๆๆ | MOTOWISH 50

“สนุกทุกครั้งที่ได้ขี่” เป็นคำจำกัดความสั้นๆของรถ Honda CB300R 2018 ที่ทางทีมงานได้ทำการทดสอบแบบ 3 วัน 2 คืน บนระยะเปิดหน้ายางรวม 400 กิโลเมตร กับรถพิกัด 300 ซีซี ซึ่งฮอนด้าบรรจงใช้วัสดุระดับบิ๊กไบค์ใส่ลงในรถ จะสนุกยังไงตามไปชมกัน…

พื้นฐานการออกแบบ

Neo Sports Café คำจำกัดความที่ทางฮอนด้าผสมผสานการออกแบบรถคาเฟ่ และรถสปอร์ตเข้าด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความแตกต่าง และสามารถนำไปปรับเปลี่ยนเติมแต่งแบบไม่เหมือนใคร ในสไตล์ของตัวเองได้อย่างง่ายดาย

โดยพื้นฐานการออกแบบตัวรถ Honda CB300R นั้นเป็นการต่อยอดจากรุ่น CB150R ซึ่งเลือก Large Project Leader  ที่ฝากผลงานการออกแบบรถอันเลื่องชื่อในรุ่น CBR1000RR , รถโปรโตไทป์แชมป์โลกรหัส RC211V , และสุดยอดรถแข่งเวอร์ชั่นถนนอย่าง RC213V-s ราคา 8.7 ล้านบาท คือคุณ Yuzaru Ichikawa

รีวิว Honda CB300R 2018 ลองให้หายข้องใจ...ว่าทำไมต้อง Neo Sports Café คราฟต์ๆๆ | MOTOWISH 51

ตัวรถจะเน้นไปที่เรื่องของ การรวมมวลสู่จุดศูนย์ถ่วง ของตัวรถและตัวผู้ขับขี่ จะถูกจัดให้อยู่ภายในลักษณะแบบสามเหลี่ยม คือ ศรีษะผู้ขับขี่ ล้อหลัง ล้อหน้า โดยน้ำหนักรวมทั้งหมดจะตกลงตรงกึ่งกลางของผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้รถนั้นมีการคอนโทรลที่ดี บาลานซ์น้ำหนักได้ดี เหมือนเช่นรถแข่งนั้นเอง

 

มาถึงตรงนี้คงจะเห็นแล้วว่าพื้นฐานการออกแบบนั้น Sports กันตั้งแต่พิมพ์เขียวเลย และด้วยลายเส้นโค้งเว้าผสมกับการเลือกโทนสีตัดทำให้ดูทันสมัยขึ้นไปอีก พาลให้จิตนาการของเจ้าของรถอยากคัสตอมขึ้นมาทันที ซึ่งก็ตรงเป้าหมายที่ทางฮอนด้าวางไว้เพื่อให้ ผู้ซื้อรถสามารถไปต่อยอดความคิดของตัวเองได้ อีกเช่นกัน

รูปลักษณ์ภายนอก 

เฟรมแบบใหม่ลักษณะเป็นโครงถักที่เรียกว่า Inner Pivot Type Daimond Frame ทำให้โครงตัวถังมีความแข็งแรงขึ้น และน้ำหนักเบากว่าเฟรมรุ่นเก่า

เครื่องยนต์แบบ 1 ลูกสูบ 286 ซีซี ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ยังคงเป็นระบบหัวฉีด PGM-Fi อันเลื่องชื่อของฮอนด้า ให้แรงม้าที่ 31 แรงม้า และ แรงบิดสูงสุดที่ 27 นิวตันเมตร

หน้าจอเรือนไมล์แบบ Full LCD Multifunction Meter บอกรายละเอียดที่จำเป็นครบครัน มาพร้อมชิฟไลท์ (ไฟตรงกลางด้านบนสุด) ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเซ็ทค่าเตือนเปลี่ยนเกียร์ เริ่มต้นกันที่ 7,500 รอบ ส่วนรอบเครื่องเรดไลน์เริ่มต้นที่ 10,500 รอบ

เทเปอร์แฮนด์บาร์ ขนาด 28.6 มิลลิเมตร ยึดบนแผงคออย่างแน่นหนาให้ความแข็งแรง และเลือกใช้วัสดุเกรดบิ๊กไบค์ให้ความเบาไปในตัว ตำแหน่งที่วางมือค่อนข้างกว้างเพื่อการบังคับและควบคุมรถได้อย่างง่ายดาย

สวิทช์ต่างๆมีมาให้ครบถ้วน ยกเว้นปุ่มกด “แตร” ที่สลับตำแหน่งไม่เหมือนรถยี่ห้ออื่น หากใครไม่คุ้นเคยกับรถฮอนด้า เวลาจะกดแตรอาจเผลอไปกดปุ่มไฟเลี้ยวก็เป็นได้ ก็ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยกันสักเล็กน้อย

ไฟหน้าแบบ LED ทรงกลมตรงแนว Neo Sports Café ส่วนไฟท้ายและไฟเลี้ยวเลือกใช้แบบ LED ครบทั้งระบบ

ถังน้ำมันความจุ 10 ลิตร (CB150R 8.5 ลิตร) ดีไซน์ใหม่หมด / หน้าตาของกุญแจ CB300R 2018 และฝาถังน้ำมันแบบ Airplane tank Cap คือ มีแกนล็อคฝาน้ำมันไว้ ทำให้ไม่ต้องยกทั้งฝาออกเวลาเติมน้ำมัน

ระบบกันสะเทือน

โช้คอัพหน้ายังคงเลือกใช้ยี่ห้อ SHOWA คุณภาพเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง ตัวนี้พื้นฐานมาจากรถซุปเปอร์สปอร์ตรุ่น CBR600RR เป็นแบบหัวกลับ USD ขนาด 41 มิลลิเมตร ในรถคลาสบิ๊กไบค์

 

โช้คอัพหลังแบบ Mono Shock วางมุมองศารับกับเฟรมรถ สามารถปรับได้ 7 ระดับ มาพร้อมสวิงอาร์มแบบ Light Weight (น้ำหนักเบา) เพื่อให้การตอบสนองช่วงล่างได้ดีกว่ารถทั่วไป

ระบบเบรค

เบรคหน้า : แบบเรเดียลเมาท์ 4 พอต ยี่ห้อ Nissin ประกบจานดิสก์เบรคแบบแยกชิ้น ขนาด 296 มิลลิเมตร / เบรคหลัง : คาลิปเปอร์ 1 พอต ยี่ห้อ Nissin พร้อมดิสก์เบรคขนาด 220 มิลลิเมตร ( มีระบบ ABS หน้าและหลัง พร้อมระบบ G Sensor )

รีวิว Honda CB300R 2018 ลองให้หายข้องใจ...ว่าทำไมต้อง Neo Sports Café คราฟต์ๆๆ | MOTOWISH 55

TEST  TEST : 3 วัน 2 คืน 400 กิโมเมตร 

การคอนโทรล

ทีมงานพาเจ้า CB300R เริ่มต้นออกเทสกันแถวๆใจกลางเมืองย่านถนนสีลม ลองให้ได้ฟิลลิ่งใช้งานแบบของจริงกันไปเลย โพซิชั่นท่านั่งของตัว CB300R 2018 มาในสไตล์แบบรถ Naked ตำแหน่งของแฮนด์ค่อนข้างกว้างเช่นเดียวกับรุ่น CB150R ทำให้การบังคับควบคุมตัวรถนั้นเลี้ยวซอกแซกอย่างง่ายดายและวางมือได้แบบสบายๆ แต่ก็ยังมีความรู้สึกเช่นเดิมว่าความกว้างของแฮนด์นั้น น่าจะสั้นลงสักข้างละ 1″- 2″ นิ้ว จะง่ายต่อการขับขี่มุดซอกแซกในเมืองช่วงที่รถติดมากๆ ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

รีวิว Honda CB300R 2018 ลองให้หายข้องใจ...ว่าทำไมต้อง Neo Sports Café คราฟต์ๆๆ | MOTOWISH 54

อีกหนึ่งความรู้สึกที่ยังคงคอนเซ็ปต์คือความ “เบา” เหมือนขี่รถพิกัด 150 ซีซี ทำให้มีความคล่องตัวในการขับขี่และไม่รู้สึกเหนื่อยล้ากับการควบคุมรถ โดยรุ่นนี้ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่งมีระยะ 799 มิลลิเมตร (CB150R สูง 795 มม.) เทสไรเดอร์ความสูง 170 เซนติเมตร น้ำหนัก 62 กิโลกรัม ใส่รองเท้าบูทขาแตะพื้นได้เกือบเต็มฝ่าเท้า เบาะนั่งผู้ขับขี่มีระยะความกว้างดีกว่ารุ่น CB150R มาก เพราะมีขนาดที่ยาวกว่าเลยทำให้เวลานั่งขี่หรือขยับท่าทางก้นจะไม่ไปชนเบาะคนซ้อน

รีวิว Honda CB300R 2018 ลองให้หายข้องใจ...ว่าทำไมต้อง Neo Sports Café คราฟต์ๆๆ | MOTOWISH 53

การตอบสนองของเครื่องยนต์

เครื่องยนต์บล็อค 300 ซีซี ตัวนี้ยัดลูกสูบขนาด 76 มิลลิเมตร ให้แรงบิดที่ดุดันตั้งแต่รอบต่ำๆบิดติดมือจนถึง 7-8,000 รอบ ความรู้สึกไม่ได้จัดจ้านมากแต่ให้แรงดึงแบบต่อเนื่อง สอดรับกับชุดเกียร์ที่สับได้กระชับรวดเร็วเข้ากันเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นช่วงรอบเครื่องที่ต้องใช้ในเมืองกันเป็นประจำอยู่แล้ว โดยยังคงความรู้สึก “ขี่ได้สนุก” ตามสโลแกนที่ฮอนด้าวางไว้

รีวิว Honda CB300R 2018 ลองให้หายข้องใจ...ว่าทำไมต้อง Neo Sports Café คราฟต์ๆๆ | MOTOWISH 52

เสียงของท่อไอเสีย ให้ความทุ้มนุ่มนวลไพเราะติดสไตล์บิ๊กไบค์อยู่เหมือนกัน ท่อใหญ่ๆแบบนี้มีดีอยู่ภายในด้วยนะ เพราะด้านในมีโครงสร้างแบ่งออกเป็น 2 ห้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองอัตราเร่งในทุกย่านรอบเครื่องยนต์อีกด้วย ความเร็วสูงสุดที่ทดสอบได้ประมาณ 160 กว่า กิโลเมตร/ชั่วโมง กับการนั่งขี่กดคันเร่งไปแบบชิลๆ รอบเครื่องยนต์ยังคงมีแรงบิดส่งต่อไปได้อีก หากต้องการความเร็วช่วงปลายคงต้องลองไล่ทดสเตอร์กันดู ไหลๆไปได้อีกแน่นอน แต่แค่นี้ก็ถือว่าขี่สนุกบิดติดมือทุกเกียร์แล้วนะ

 

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย : ทดสอบในเมือง 28 – 30 กม./ลิตร , ทดสอบนอกเมือง 33 – 35 กม./ลิตร

ระบบกันสะเทือนและช่วงล่าง

ไปสาดดดโค้งกัน !!! เห็นระบบช่วงล่างของ CB300R แบบนี้แล้ว ยิงยาวๆไปลองโยนโค้งกันต่างจังหวัดเลยดีกว่า ช็อตนี้เทสไรเดอร์กดคันเร่งมาประมาณร้อยต้นๆกับโค้งแคบๆ มุมนี้จะสังเกตได้ว่าไม่ต้องจัดท่าทางอะไรมากมาย ลองโยนรถเข้าโค้งไปเลยเพื่อดูอาการตอบสนองของช่วงล่างกันว่าจะ “พาออกโค้ง” ไปแบบไหน

ช่วงล่างให้ความรู้สึกแน่นๆนิ่งๆไปแบบไม่ออกอาการอะไร จริงอยู่ว่าในภาพอาจจะไม่ได้เทโค้งอะไรมากนั้น เพราะลองทดสอบเรื่องจุดศูนย์ถ่วงไปในตัวด้วย งั้นเดี๊ยวมาลองอีกช็อตแบบกึ่งเรซซิ่งดูบ้างว่าจะ “เอาอยู่ไหม๊” ช่วงที่รถผ่านถนนขรุขะไม่เรียบ โช้คหน้า-หลัง ก็ซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ไม่มีอาการสะท้านมาถึงมือให้เซ็งในอารมณ์แบบรถบางรุ่น

ลองจังหวะการเทโค้งเหมือนขี่รถสปอร์ตกันดูบ้าง กดมาถึงไม่พูดพร่ำทำเพลง ย้ายก้น กางเข่า เอียงตัว แล้วพับรถเข้าหาโค้งในทันที รถยังคงเข้าโค้งไปได้อย่างสมูทนิ่งๆไม่มีอาการยุบตัว หรือดีดดิ้นสบัดคนขี่ให้ต้องพะวงหมดสนุก ฟิลลิ่งของช่วงล่างให้ความรู้สึกเกือบจะเหมือนขี่รถบิ๊กไบค์คลาสสปอร์ต 600 ซีซี

ระบบเบรค

ชุดเบรคเรเดียลเมาท์ 4 พอต จับคู่กับจากเบรคแบบแยกชิ้นขนาดใหญ่ หากใครคิดว่าทำไมไม่ใส่ดิสก์คู่มา บอกได้เลยว่าไม่มีความจำเป็น ด้วยชุดเบรคแค่ข้างเดียวอย่างที่เห็น ให้การตอบสนองได้ทุกการควบคุม ไม่ว่าจะเบรคหนักหรือแค่เลียเบรคเพื่อคอนโทรลรถก็ทำได้อย่างดีแทบไร้ที่ติ ผู้ซื้อเพียงแค่เปลี่ยนสายเบรคเป็นสายถักแต่งแค่นั้นเป็นอันจบ…

 

ส่วนระบบเบรค ABS ก็ทำงานได้ในระดับมาตราฐาน แต่ที่ต้องชมเชยคือ G-Sensor ในการทดสอบลองเบรคแบบเพื่อให้รถเสียอาการ ระบบทั้งสองก็ทำงานสัมพันธ์กันได้อย่างราบรื่น ช่วยให้ผู้ขับขี่คอนโทรลรถได้ง่ายและปลอดภัยขึ้นในนสภาพถนนที่แย่ๆของเมืองไทย

ยางติดรถ

จากการทดสอบกว่า 400 กิโลเมตร กับยางแบบเรเดียลยี่ห้อ Dunlop Sportmax GPR-300 รุ่นนี้ให้การเกาะถนนได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นผิวในระดับที่เรียกว่าดีมาก เทโค้งบนถนนแอสฟัลท์จนเหลือขอบยางตามภาพ อาจจะมีบางจังหวะที่ออกการดิ้นๆเล็กน้อยแต่ก็ยังคงเกาะถนนได้อย่างดี เนื้อยางให้ความรู้สึกไม่แข็งกระด้างแต่ก็ไม่ได้นิ่มจนเกินไป ด้วยขนาดไซด์ยางที่ใหญ่และกว้างแบบนี้ เหลือเฟือสำหรับรถ CB300R

สเป็ค Honda CB300R 2018  รหัส (Code CBF300NAJ TH)

เครื่องยนต์ : 1 สูบ  286 ซีซี แบบหัวฉีด PGM-FI  ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 4 วาล์ว  ระบายความร้อนด้วยน้ำ

กำลังอัด : 10.7 : 1

ครัชท์ : ครัชท์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน

เกียร์ : 6 สปีด

ขับเคลื่อน : โซ่

กันสะเทือนหน้า : โช้คแบบ Up Side Down ขนาด 41 มิลลิเมตร

กันสะเทือนหลัง : โช้คอัพเดี่ยวปรับได้ 7 ระดับ

เบรคด้านหน้า : เรเดียลเมาท์ 4 พอต ขนาด 296 มิลลิเมตร (พร้อมระบบ ABS , G Sensor)

เบรคด้านหลัง : ดิสก์เบรคขนาด 220 มิลลิเมตร (พร้อมระบบ ABS , G Sensor)

ยางหน้า : 110/70 R 17 M/C 54H แบบจุ๊บเลส (ขนาดเท่า CB150R)

ยางหน้า : 150/60 R 17 M/C 66H แบบจุ๊บเลส (ขนาดเท่า CB150R)

มิติรถ : กว้าง 888 มม. / ยาว 2,012 มม. / สูง 1,052 มม.

ระยะฐานล้อ : 1,352 มิลลิเมตร

ความสูงเบาะ : 799 มิลลิเมตร

น้ำหนักรถเปล่า : 143 กิโลกรัม

ถังน้ำมัน : 10 ลิตร

ข้อดี

  • จุดศูนย์ถ่วงของรถอยู่ในระดับดีมาก
  • ระบบช่วงล่างของรถให้ความมั่นใจแม้ในความเร็วสูง
  • ระบบเบรคดี
  • เครื่องยนต์ให้แรงบิดรอบต่ำและรอบกลาง กระชับมาไว ขี่ได้ฟิวสนุก
  • ดีไซน์ของรถทำให้ผู้ชื้อสามารถไปคัสตอมได้ง่าย

 

ข้อแนะนำ

  • ชิฟไลท์ มีขนาดเล็กไปทำให้เห็นไม่ชัดเจนในเวลากลางวัน (สำหรับบางคนที่ต้องการความชัดเจน)
  • แฮนด์มีขนาดกว้างไปเล็กน้อย ทำให้เวลาขี่ในเมืองช่วงรถติดๆ ต้องใช้ทักษะในการโยกหลบเยอะเกิน
  • ปุ่มแตร ยังคงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถฮอนด้า
  • เฟรมตัวรถ บางช่วงเนื้อสียังไม่เต็มทำให้เห็นเนื้อเหล็ก

Honda CB300R 2018 มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Mat Crypton Silver Metallic (S-B) / สีเงิน-ดำ , Mat Axis Gray Metallic (BLK) / สีดำ , Candy Chromosphere Red (R-B) / สีแดง-ดำ

 

  • ราคาวางจำหน่าย ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2561 (ราคาช่วงแนะนำ)
  • รุ่น Standard ราคา 149,800 บาท
  • รุ่น H2C Street Fighter Edition ราคา 165,000 บาท  (ผลิตจำนวนจำกัด 500 คัน)

 

  • ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นร้านผู้จำหน่าย
  • ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
รีวิว Honda CB300R 2018 ลองให้หายข้องใจ...ว่าทำไมต้อง Neo Sports Café คราฟต์ๆๆ | MOTOWISH 49

MotoWish ขอขอบคุณ

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด : สำหรับรถทดสอบ

149 ถ.รถรางเก่า ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 10130 โทร. (02) 757-6111

> Nitek Helmet 2 Power : หมวกเท่ๆสำหรับสายซิ่ง

146/2  ซ.ศูนย์วิจัย 14  ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม  แขวงบางกะปิ  เขตห้วยขวาง  กรุงเทพฯ 10310 โทร. 081-823-0181 , 099-640-0592

 

ผู้ทดสอบ : @Rider 69

VDO : All New Honda CB300R Japan Crafted

Source Cr.: A.P. Honda

อ่าน Reviews เพิ่มที่นี่

อ่านรีวิว CB150R เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Honda เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish