รีวิว Ducati Panigale V4S Full Race 226 แรงม้า “King of Superbikes” รถสปอร์ตที่ดีที่สุดแห่งปี
#ขี่เดิมๆยอมเดินดีกว่า จัดไปกับรีวิว Ducati Panigale V4S Full Race เวอร์ชั่นไล่เบาและเพิ่มเติมแรงม้าสเตปแรก บนรถที่กล้าพูดได้เต็มปากว่าเป็น “รถสปอร์ตที่ดีที่สุดแห่งปี” หลังจากได้ทดลองหวดในสนามอย่างเต็มที่ โดยการทดสอบครั้งนี้ทาง MotoWish ได้รับเกียรติจากทาง บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด (Ducati Thailand) ให้ร่วมทดสอบรถ Ducati Panigale V4S รุ่นสแตนดาร์ด ด้วยเช่นกัน
สำหรับการทดสอบรถ Ducati Panigale V4S ในครั้งนี้เรามาเทสกันที่ สนามช้างฯ เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ในงาน Ducati Riding Experience Trackdays (DRE Trackdays 2019) โดยเป็นการเทสรถ V4S Standard 214 แรงม้า จากโรงงานและรถ V4S Full Race 226 แรงม้า ของทีมงาน MotoWish เอง เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพที่เพิ่มเติมขึ้นมาว่าจะสุดยอดขนาดไหนกัน เดี๊ยวขอไปจุดธูปเรียก เบาติสต้า มาเข้าสิงคันเร่งแป๊บ!!
พื้นฐานการออกแบบ
หน้าตาเครื่องยนต์ Desmosedici Stradale V4 ที่ดูคาติตั้งใจเปลี่ยนประวัติศาสตร์รถสายสปอร์ตอีกครั้ง ดูจากสเปคแล้วทรงพลังยิ่งนัก ดูคาติพยายามเป็นอย่างมากเพื่อให้เครื่องยนต์ลูกนี้มีน้ำหนักน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สุดท้ายแล้วด้วยเครื่อง V4 สี่สูบยังคงมีน้ำหนักมากกว่า 2 สูบ เพียงเล็กน้อยแต่ยังคงความกระทัดรัดฟัดกับคู่แข่งได้อย่างไม่เกรงกลัว แถมเครื่องยนต์บล็อคใหม่นี้นำเทคโนโลยีสายตรงจากสนามสู่ถนนอารมณ์เหมือนขี่รถ MotoGP
เทคโนโลยีที่ว่าคือระบบ Reverse Rotating Crankshaft อธิบายแบบสั้นๆคือ เครื่องยนต์ปกติทั่วไปเวลารถเคลื่อนที่ไปด้านหน้า เพลาของข้อเหวี่ยงจะหมุนไปทิศทางเดียวกันกับล้อรถ แต่เทคโนโลยีนี้เพลาของข้อเหวี่ยงจะหมุนสวนทางกับการหมุนของล้อรถ คือล้อหมุนไปด้านหน้าเพลาข้อเหวี่ยงหมุนไปทางด้านหลัง ทำให้ลดแรงกระชากเวลาเปิดคันเร่งแต่ยังคงรักษาแรงบิดได้อย่างดีอยู่ (ดูคลิปวิดีโอตอนท้ายเพิ่มความเข้าใจ)
ขึ้นชื่อว่าดูคาติ เรื่องของการดีไซน์และ R&D ถือได้ว่าไม่เป็นรองค่ายไหน ลายเส้นและดีเทลต่างๆทำได้สวยถูกใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รวมทั้งเทคโนโลยีที่อัดแน่ไปทุกอณู โดยเฉพาะโมเดลรถสปอร์ตที่เป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆคน ยกเว้นเรื่องปัญหาความร้อนที่ต้องพบเจอในประเทศไทยบ้าง
Panigale V4 ผ่านการทดสอบอุโมงค์ลมเพื่อหาแอร์โรไดนามิคให้ได้ค่า CD (แรงต้านอากาศ) น้อยที่สุด จะสังเกตได้ว่าตัวรถนั้น เพรียว เล็ก และลู่ลม จนแอบคิดว่าคนตัวใหญ่ๆและอ้วนมากๆจะเพิ่มแรงต้านทานไปอีกกี่ CD สำหรับใครที่ขี่รถสปอร์ตแล้วยังหมอบไม่เป็น เทสไรเดอร์แนะนำว่า เวลาอยู่บ้านตั้งสแตนด์ขึ้นรถหัดหมอบเก็บทุกสัดส่วนให้แนบชิดกับตัวรถไว้บ่อยๆ จะได้ชินเวลาไปลงแทรคจริงๆ
รูปลักษณ์ภายนอก
คือถ้าไม่รู้จักว่ารถรุ่นอะไรแค่เจอรถจอดอยู่เฉยๆก็ต้องอุทานว่า “โคตรหล่อ” จะพูดว่าสวยไม่มีที่ติก็ว่าได้กับรูปลักษณ์ภายนอก สปอร์ตสายโหดตั้งแต่แรกพบ หลังจากทาง ดูคาติ ไทยแลนด์ ขึ้นไลน์ประกอบในประเทศไทย และเปิดให้จองรถ Panigale V4 ตั้งแต่ปีที่แล้วได้รับการต้อนรับจากสาวก จนยอดจองถล่มทลายเป็นประวัติการณ์ เพื่อนๆคงจะได้อ่านรีวิวผ่านกันมาพอสมควรแล้วครั้งจะรีวิวรถเดิมๆก็ไม่แนวอีก เลยจัดให้เสพรีวิวรถของทีมงาน MotoWish สเตปนี้เลยแล้วกัน
หน้าตาโหดดุดันพร้อมจะมีเรื่องเมื่อใครมาเบิ้ลเครื่องใส่ หยอกๆ!! ระบบไฟ Full LED lighting with Daytime Running Light (DRL) สวยงามสว่างดูแพง สังเกตุในช่องลมผ่านแฟรริ่งชิ้นด้านท้ายมีครีบตัดอากาศด้วย เก็บรายละเอียดการดีไซน์ได้ทุกจุดเลยจริงๆ
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของดูคาติ จากการถ่ายทอดเทคโนโลยีจาก MotoGP สู่รถโปรดักส์ชั่น Panigale V4 เรียกเครื่องยนต์นี้ว่า Desmosedici Stradale V4 เป็นเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบ ที่ทำมุมแบบ 90 องศา ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบบวาล์วแบบ Desmodromic พิกัด 1,103 ซีซี กำลังอัด 14.0:1 แรงม้า 214 แรงม้า 13,000 รอบ/นาที แรงบิด 124 นิวตันเมตร 10,000 รอบ/นาที
ชุดคลัทช์ไฮโดรลิคแบบเปียกพร้อมระบบ Slipper Clutch ช่วยลดอาการล้อล็อคเวลาเปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูง (ในรูปเป็นฝาคลัทช์แบบแต่ง) มีคนบอกเหมือนตัวปฏิกรอาร์คบนหน้าอกของ Iron Man เลย!!
ท่อไอเสียยี่ห้อ Akrapovic Full Race ชุดนี้ผลิตจากวัสดุไทเทเนี่ยมทั้งใบแบบ Full System สามารถรีดแรงม้าจากเดิม 214 แรงม้า เพิ่มขึ้นได้ถึง 226 แรงม้า (เพิ่มจากเดิม 12 แรงม้า+อัพซอฟแวร์กล่อง ECU) พร้อมแรงบิดที่เพิ่มขึ้นอีก 9.6 นิวตันเมตร รวมแรงบิดที่จะถีบคนขี่ออกจากรถเป็น 133.6 นิวตันเมตร แถมลดน้ำหนักได้เบาลงอีก 5.5 กิโลกรัม
Panigale V4S vs V4S Full Race
V4S Standard 214 แรงม้า
น้ำหนักรถ 175 กิโลกรัม (ยังไม่รวมของเหลว) บวกลบคูณหารแล้วม้า 1 ตัว แบกน้ำหนักที่ 0.817 กิโลกรัม
V4S Full Race 226 แรงม้า
น้ำหนักรถ 169.5 กิโลกรัม (ยังไม่รวมของเหลว) (รถเบาขึ้นเพราะท่อไอเสียแต่ง) ม้า 1 ตัว แบกน้ำหนักที่ 0.750 กิโลกรัม
- ต่างกันอยู่ประมาณ 0.067 กิโลกรัม (ดูตัวเลขเหมือนจะไม่เยอะ แต่มั่นใจว่ารู้สึกได้เพราะแรงบิดและแรงม้าที่เพิ่มมากขึ้นนั้นเอง)
สำหรับใครที่ซื้อท่อชุดนี้จะมี Lower Faring (แฟริ่งชิ้นด้านล่าง) มูลค่า 12,220 บาท รวมมาให้อยู่ในชุด พร้อมกับการติดตั้งท่อไอเสียและ อัพเกรดซอฟแวร์จากตัวแทนจำหน่ายรถ Ducati อย่างเป็นทางการเท่านั้น
- ราคาท่อไอเสีย+อัพเกรดซอฟแวร์ ราคา 268,330 บาท
ระบบกันสะเทือน
Panigale V4 โช้คหน้ายี่ห้อ Showa รุ่น BPF ขนาด 43 มิลลิเมตร ปรับตั้งค่าได้เต็มระบบ เป็นรุ่นยอดนิยมที่ใส่อยู่ในตัวพันหลายๆค่าย ส่วน Panigale V4S (ในรูป) โช้คหน้าแบบไฟฟ้ายี่ห้อ Öhlins รหัส NIX30 ขนาด 43 มิลลิเมตร ปรับตั้งค่าได้เต็มระบบเช่นกัน แต่ง่ายเพียงปลายนิ้วกดที่สวิทช์บนประกับฝั่งซ้ายมือของแฮนด์
กันสะบัดไฟฟ้าติดรถยี่ห้อ Sachs ทีมงานจัดการเปลี่ยนออกใส่ของ Öhlins ปรับแบบแมนนวลแทน
Panigale V4 โช้คหลังเลือกใช้ของ Sachs ปรับตั้งค่าได้เต็มระบบ ส่วน Panigale V4S (ในรูป) โช้คหลังแบบไฟฟ้ายี่ห้อ Öhlins รหัส TTX36 ปรับตั้งค่าได้เต็มระบบโดยกดที่สวิทช์บนประกับฝั่งซ้ายมือของแฮนด์ โช้คไฟฟ้าหน้าหลังทำงานควบคู่กับระบบ Ohlins Smart EC เวอร์ชั่น 2.0
สวิงอาร์มหลังวัสดุอลูมิเนียมทั้งชิ้นเพื่อความเบาเป็นที่สุด
ระบบเบรค
คาลิเปอร์หน้า Brembo Monobloc Stylema รหัส M4.30 แบบเรเดียนเมาท์ 4 ลูกสูบ ประกบจานเบรค Semi Floating แบบขยับได้ขนาด 330 มิลลิเมตร พร้อมด้วยระบบ Bosch Cornering ABS EVO
V4 บังโคลนหน้าสีเดียวกับตัวรถ V4S บังโคลนหน้าแบบคาร์บอน
คาลิเปอร์หลัง Brembo 2 ลูกสูบ ประกบจานเบรคขนาด 245 มิลลิเมตร พร้อมด้วยระบบ Bosch Cornering ABS EVO
อย่าเพิ่งงงใจว่าดูคาติจัดหนักให้ปั้มเบรคบนเป็น Brembo Rossi หมุดทอง เป็นของติดรถรึ!! อันนี้ทีมงานจัดการเปลี่ยนใส่เองเพื่อลดระยะเบรคให้ได้ฟิลน้องๆ WorldSBK…เฉียบบ!!
ประกับฝั่งซ้ายมือ ปุ่มกดขึ้นลง + – และยังสามารถเลือกกด Mode , Enter , Select ด้านข้างทั้งสองปุ่ม ถัดมาด้านล่างเป็นไฟเลี้ยวและแตร ด้านบนประกับเป็นปุ่มไฟ DRL และไฟฉุกเฉิน ใกล้ๆกันปุ่มที่ยื่นคือปุ่มกดวัดเวลาต่อรอบสนาม ส่วนปั้มคลัทช์เป็นของยี่ห้อ Brembo เจ้าประจำดูตาคิ
ประกับฝั่งขวามือ มีสวิทช์ Off-Run , ปุ่มสตาร์ท , DPL (Ducati Power Launch) มาพร้อมคันเร่งระบบ Full Ride By Wire ปลอกมือมีโลโก้ Ducati ติดอยู่ด้วย
ระบบอิเล็คทรอนิกส์
ในบรรดารถซุปเปอร์ไบค์สปอร์ตคลาสพันซีซี ถ้าไม่นับ BMW S1000RR 2019 ที่ยังไม่มีขายในประเทศไทย Ducati Panigale V4 ถือได้ว่าระบบอิเล็คทรอนิกส์ช่วยในการขับขี่สุดยอดที่สุดแล้ว ตั้งแต่เทสไรเดอร์ได้ทดสอบมา
ในส่วนของหน้าจอสำหรับรถ Panigale V4 ที่ได้รับการอัพเกรดซอฟแวร์กล่อง ECU จากการใส่ท่อแต่งแบบ Full Race เวลาเปิดสวิทช์กุญแจที่หน้าจอฝั่งขวามือจะขึ้นข้อความโหมด Racing Pro
หน้าจอดิจิตอลแบบสี TFT ขนาด 5” เลือกโหมดปรับได้ 3 แบบ Auto , Day , Night เวลากลางวันหน้าจอจะเป็นสีขาว ส่วนเวลากลางคืนหรือรถอยู่ในที่มืดๆหน้าจอจะเป็นสีดำ ส่วนตัวเทสไรเดอร์ชอบหน้าจอสีดำมากกว่านะ
และยังเลือกปรับค่าการแสดงผลได้ 2 แบบ คือ Road / Track เพื่อให้ง่ายต่อการสังเกตตัวเลข ยังไม่หมดๆยังมีระบบ DMS – Ducati Multimedia System เรียกดูตัวเลขข้อมูลการขับขี่แบบต่างๆขึ้นหน้าจอให้ได้ศึกษาทำสถิติอีก
หลังจากได้ลองเล่นระบบอิเล็คทรอนิกส์ของ Panigale V4S แล้ว ประหนึ่งเหมือนเล่นเกมรถแข่ง การปรับตั้งค่าของรถเยอะแยะมากมายจนรู้สึกว่าวิศวกรดูคาติจะคิดอะไรกันขนาดน้านนน ถ้าจะทำความเข้าใจกับตัวรถอย่างจริงจัง ให้รู้สึกถึงความแตกต่างในการปรับตั้งค่า Setting ให้ครบทุกระบบ ทุกเลเวล คงต้องใช้เวลาทดสอบอยู่ในสนามหลายวันทีเดียว ฉะนั้นขอพูดถึงจุดสำคัญๆพอ
ถึงแม้ระบบจะเยอะแต่ภาพกราฟฟิคก็ทำให้การตั้งค่าต่างๆเข้าใจได้ง่ายพอสมควร หน้าจอแสดงผล ตัวด้านบนซ้ายมือจับเวลาต่อรอบสนาม ถัดลงมาเวลาตั้งขาตั้งจะขึ้นคำ “Side Stand” ส่วนเลข 0 ข้างๆคือตัวบอก ความเร็ว (สามารถเซ็ทความเร็วเป็น กิโลเมตร และ ไมล์) ถัดลงมาล่างสุด Setting Menu ทำงานคู่กับปุ่มกดที่สวิทช์ประกับซ้ายมือ
ฝั่งขวามือ รอบเครื่องยนต์เริ่มแตะเรดไลน์ที่ 14,500 รอบ สุดแถบแดงที่ 15,000 รอบ ตรงกลางบอกเลขเกียร์ ซ้ายมือตัวอักษรเล็กๆ Race สีแดงบอกโหมดที่กำลังใช้งานอยู่ ขวามือล่างสุดจอบอกระบบ Setting การใช้งานต่างๆ
Ducati ร่วมกันพัฒนาระบบอิเล็คทรอนิกส์กับ Bosch โดยใช้กล่อง ECU แบบ IMU (Bosch Inertial Measurement Unit) ตรวจจับการเอียงตัวของรถทั้ง 6 แกน บน ล่าง ซ้าย ขวา หน้า หลัง เหมือน ZX10R , R1M และสปอร์ตคลาสพันค่ายอื่นๆ แต่ได้รับการพัฒนามาถึงเวอร์ชั่นล่าสุด
Panigale V4 สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ได้ทั้งหมด 3 แบบ คือ Street , Sport , Race พอกดเลือกเข้าโหมดที่ต้องการไปแล้วข้างในจะมีระบบต่างๆให้เลือกปรับตั้งค่าได้อีกดังนี้
Bosch Cornering ABS EVO เป็นระบบเบรก ABS แบรนด์ระดับโลกจาก Bosch ที่ใช้กันแพร่หลายในรถยนต์และซุปเปอร์ไบค์ ระบบเบรกนี้ทำให้ลบทฤษฎีการขี่ที่ว่า “ห้ามเบรกในโค้ง” ไปได้ระดับนึง โดยสามารถเซ็ทค่าได้ 3 ระดับ เริ่มกันที่ระดับ 1 ค่านี้จะทำงานไวสุดๆเหมาะกับพื้นแบบเปียก ระดับ 2 เหมาะกับการใช้งานบนถนนทั่วไป ระดับ 3 เหมาะกับลงสนามแข่งขันหรือผู้ขับขี่ที่ไม่ต้องการให้ระบบ ABS ทำงานมากเกินไป (โดยเฉพาะนักแข่งจะไม่ใช้ระบบ ABS กัน เพราะกะระยะในการเบรคไม่แม่นยำเท่าที่ควร)
และในแต่ละค่ายังแบ่งให้เลือกได้ว่าต้องการแบบ Track / Road , Performance / Safe , Stable
DTC – Ducati Traction Control EVO ระบบแทรคชั่นคอนโทรลป้องกันแรงบิดที่มากเกินไปจากล้อหลัง ปรับตั้งค่าได้ 8 ระดับ พร้อมเลือกโหมด Track / Road / Wet ถ้าเลือกลูกศรไปทาง Performance สำหรับมือโปร ถ้าเลือกไปฝั่ง Safe , Stable สำหรับมือใหม่ (พูดให้เข้าใจแบบง่ายๆ)
DWC – Ducati Wheelie Control EVO ระบบป้องการการบิน เอร๊ยยย ป้องกันการยกล้อ คือรถที่มีแรงม้ามากๆเวลาเปิดคันเร่งออกจากโค้งล้อก็ยกลอย บางทีสูงมากเกินไปก็เสียจังหวะและทำให้ควบคุมยาก แถมบางครั้งก็เสียเวลาในการทำเวลาต่อรอบไปอีก ฉะนั้นการออกจากโค้งแบบเนียนๆล้อลอยเบาๆสมูทๆจะเป็นอะไรที่ง่ายและรวดเร็วกว่า..
DSC – Ducati Slide Control เป็นอีกระบบที่สุดยอดมาก เมื่อคุณมีสกิลถึงระดับหนึ่งแล้วคุณสามารถที่จะเลือกการตั้งค่าการสไลด์ของรถให้ได้มากน้อยตามต้องการ เผื่อใครอยากจะเปิดคันเร่งสไลด์ออกจากโค้งสไตล์โมโตจีพี
EBC – Engine Brake Control EVO ระบบควบคุม Engine Brake ของเครื่องยนต์ สามารถเลือกปรับได้ 3 ระดับ ตามต้องการ
DES – Ducati Electronic Suspension EVO (มีเฉพาะรุ่น V4S เท่านั้น) เป็นการตั้งค่าระบบกันสะเทือนโช้คไฟฟ้า Ohlins Smart EC ทำงานควบคู่กับกล่อง ECU Bosch IMU โดยสามารถเลือกตั้งค่าได้ 2 แบบ 1. Real Time , 2. Manual
นอกจากนี้ยังมีระบบ
DPL – Ducati Power Launch ระบบช่วยในการออกตัวของรถจากจุดหยุดนิ่ง นึกถึงตอนรถแข่งออกสตาร์ท หรือประมาณยากจะเทครถออกจากไฟแดง ตั้งค่าได้ 3 ระดับ ช่วยให้การออกตัวเป็นไปอย่างสมูทแต่รวดเร็วเหมือนนักแข่ง และช่วยลดภาระของผ้าคลัทช์
DQS – Ducati Quick Shift up/down EVO ระบบเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงโดยไม่ต้องกำคลัทช์ ทำให้โลกของสายซิ่งเป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกเยอะ
ล้อและยางติดรถ
Panigale V4 , V4S ล้อแมกซ์จะเป็นล้อแบบ 5 ก้าน แต่จริงๆมี 10 ก้านเล็กนะ ส่วนวัสุดที่ใช้ก็เป็นแบบ Light Alloy (ถ้ารถประกอบนอกจะเป็นล้อฟอร์จ Machesini) ล้อหน้าขนาด 3.5 นิ้ว สวมยางยี่ห้อ Pirelli Diablo รุ่น Supercorsa SP ขนาดยาง 120/70 ZR17 , ล้อหลังขนาด 6 นิ้ว ขนาดยาง 200/60 ZR17
ส่วนรถ Panigale V4S ของทีมงาน (ในรูป) ก็จัดการเปลี่ยนเป็นล้อคาร์บอนยี่ห้อ Rotobox รุ่น BOOST ทำน้ำหนักลดลงจากล้อเดิมไปได้อีกประมาณ 6± กิโลกรัม ล้อคาร์บอนน้ำหนักล้อหน้าอยู่ที่ 2.5± กิโลกรัม ล้อหลังอยู่ที่ 4± กิโลกรัม
สรุปแรงม้าและน้ำหนักรถของ Panigale V4S Full Race + Carbon Wheel 226 แรงม้า
น้ำหนักรถ 163.5 กิโลกรัม (ยังไม่รวมของเหลว) (รถเบาขึ้นอีกเพราะล้อคาร์บอน) ม้า 1 ตัว แบกน้ำหนักที่ 0.723 กิโลกรัม นี้เทสไรเดอร์กำลังจะได้หวด “รถที่เบาระดับ MotoGP เลยใช่ไหม๊!!”
TEST TEST
พร้อมลั่น!! ช่วงครึ่งวันเช้าเทสไรเดอร์ลองเทสรถ Panigale V4S ที่ทางดูคาติเตรียมไว้ให้ก่อน ฟิลลิ่งขึ้นคร่อมรถความรู้สึกแรกในทันที รถดูเล็กคอมแพคมากๆ ช่วงโพซิชั่นและมิติรถเหมือนรถ Supersport 600 cc. บริเวณหน้ารถไม่ยื่นยาวเหมือนคลาสพันยี่ห้ออื่น ชิลด์หน้าแบบสูงโค้งรับกับการหมอบ ตัดลมข้ามหัวได้อย่างดีแบบไม่ต้องเสียเงินซื้อของแต่ง ปุ่มสตาร์ทฝั่งขวามือถ้าใครไม่คุ้นเคยอาจจะสตาร์ทรถไม่ติด เพราะต้องเลื่อนสวิทช์ขึ้นก่อนถึงจะกดปุ่มสตาร์ทรถให้ติดได้ ถ้าสวิทช์ถูกผลักลงมาอยู่ด้านล่างจะกดปุ่มสตาร์ทไม่ติดนะ
เทสไรเดอร์ย่ามใจไหนๆก็เคยขี่รถระดับ 258 แรงม้า (Ninja H2 Trick Star) มาแล้วเลยกดเลือกโหมด Race โหดๆรู้จักกันไปเลย หลังกดปุ่มสตาร์ทเสียงเครื่องยนต์ให้อารมณ์กึ่งๆเครื่องยนต์ L-Twin แต่ๆเครื่อง V4 ติดเพียงแค่ 2 สูบ เท่านั้นในช่วงที่รถจอดสนิท เครื่องยนต์จะทำงานเต็มระบบ 4 สูบ เมื่อกดคันเร่งออกไป ใครที่คิดว่าจะได้ยินเสียงว๊ากกกในรอบสูงๆคงต้องผิดหวังกัน เพราะเสียงเครื่องยนต์เป็นแบบลูกผสมเหมือน L-Twin ดูคาติผสม Crossplane ของยามาฮ่า
การคอนโทรล
รถ Panigale V4S ระยะความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง 830 มิลลิเมตร ถือว่าไม่ได้สูงมากมายนัก ชายไทยขาสั้นไม่ต้องเต้นบัลเล่ต์โชว์ เพราะเตี้ยกว่ารถ R1 ที่เบาะนั่งสูง 855 มิลลิเมตร และ R1M สูงถึง 860 มิลลิเมตร เทสไรเดอร์ความสูง 170 เซนติเมตร เหยียบพื้นได้เกือบเต็มฝ่าเท้า ช่วงแรกของการทดสอบเปิดหน้ายางวอร์มอุณหภูมิให้ได้ที่ พร้อมทำความคุ้นเคยกับคันเร่งและโพซิชั่นตัวรถก่อน จังหวะแรกที่เอียงรถเข้าโค้ง รถเลี้ยวเอนแบนเข้าโค้งได้อย่างง่ายดายรวดเร็ว จนรู้สึกเหมือนไม่ได้ขี่รถคลาสพันซีซีแบบที่เคยขี่มา อารมณ์ประมาณเหมือนขี่รถ Supersport 600 cc. (อีกแล้ว)
การผลิกรถจากโค้งซ้ายไปโค้งขวาก็ทำได้อย่างง่ายดายมาก รู้สึกถึงความเบาของรถและบาลานซ์ที่ดี การควบคุมแฮนด์ให้ความรู้สึกว่องไวอยู่พอสมควร จนทำให้คิดว่าถ้าไม่มีกันสะบัดคนขี่คงจะบินออกจากรถอย่างแน่นอน โดยส่วนตัวเทสไรเดอร์ไม่ชอบฟิลลิ่งของกันสะบัดไฟฟ้า เนื่องจากทำความหนืดไม่คงที่เท่าที่ควร แทบจะทุกรุ่นเลยไม่ว่าจะเป็น R1M , ZX10R , H2
เบาะนั่งให้ความกระชับพอเหมาะไม่แข็งกระด้างจนเกินไป ผิวสัมผัสเกาะกับชุดหนังได้ดีไม่ลื่นเหมือนรถบางรุ่นที่ลื่นจนบางทีตัวจะหล่นลงจากรถเวลาพลิกรถเทโค้งเร็วๆ
ไม่จำเป็นต้องจัดท่าทางการขับขี่เยอะนักรถ Panigale V4S ก็สามารถพาคุณแบนโค้งเข่าเช็ดพื้นได้แบบสบายๆ มือใหม่ก็ดูเป็นมือโปรขึ้นมาในทันที จังหวะช่วงเอียงรถลงไปในโค้งจะรู้สึกว่ารถสามารถทำองศาการเอียงได้เยอะมากๆ อารมณ์เหมือนเทไปแล้วยังไม่สุด ยังเทได้อีกพับลงได้อีก!!
การตอบสนองของเครื่องยนต์
เนื่องจากเทสไรเดอร์ปกติขี่รถเกียร์ Revese (เกียร์กลับ) เป็นประจำจนเคยชิน ซึ่งเวลาออกจากโค้ง 3 ของสนามช้างจะตบลงเกียร์ 3 แล้วยกล้อลอยตลอด มีอยู่รอบหนึ่งที่ลืมตัวดันขี่ V4S ออกจากโค้งด้วยเกียร์ 2 ที่ความเร็ว 183 กม./ชม. แล้วดันตบเกียร์ลงเป็นเกียร์ 1 ซะงั้น รอบตึงดึงรถในทันทีแต่เทสไรเดอร์ก็งัดรวบสองเกียร์ติดในทันทีเป็นเกียร์ 3 แล้วกดคันเร่งต่อ
ช็อตนี้ทำให้รู้เลยว่ารถ Panigale V4S รอบเครื่องตอบสนองได้สุดโหดแท้ เกียร์ 1 ความเร็ว 183 กม./ชม. อย่าให้ทาง ดูคาติ ไทยแลนด์ เห็นรีวิวนี้เชียวนะมีเคืองแน่นอน 555+ ช่วงเกียร์ 1 อัตราเฟืองทดเกียร์และรอบเครื่องให้ความรู้สึกลากรอบได้ยาวมากๆ แรงบิดของรถ V4S ไม่ได้ดึงแบบหน้าหงายเงิบ แต่ดึงขึ้นแบบดุดันทอร์คดึงต่อเนื่องแบบโหดๆทุกย่านของรอบเครื่องยนต์จนแตะเรดไลน์ การสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์น้อยกว่า L-Twin แต่ก็ไม่นิ่งเรียบเท่า 4 สูบ ยี่ห้ออื่น
ภาพถ่ายจากกล้อง GoPro 6
ช่วงสุดทางตรงของสนามช้างฯ เซอร์กิต ระยะทางยาว 1.1 กิโลเมตร เทสไรเดอร์กดท็อปสปีดเกียร์ 5 ได้ที่ 287 กม./ชม. ที่รอบเครื่องยนต์ 13,500 รอบ/นาที ส่วนเกียร์ 6 เหลือบตาไปเห็นตอนยกคันเร่งได้ความเร็วที่ 298 กม./ชม. (แต่เป็นรอบหลังๆที่ไม่ได้บันทึกภาพไว้) ส่วนรอบที่ถ่ายภาพไว้ได้นี้ต้องยกคันเร่งก่อน เนื่องจากมีรถช้าขวางไลน์อยู่ด้านหน้า เทสไรเดอร์เองก็ไม่อยากแซงระยะประชิด เหมือนเปตุสชี่สะกิดโดวิ เกรงว่าคันหน้าจะเดินเอากล้วยมาแจกให้ถึงในพิท !!
ดูตัวเลขแล้วอาจจะคิดว่าทำไมเกียร์ 6 ความเร็วเพิ่มขึ้นอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น อย่าลืมว่าต้องเบรกแล้ว เพราะทางตรงระยะเพียงแค่ 1.1 กิโลเมตร เท่านั้นเอง ถ้าแช่ทางยาวๆก็ได้ 3xx กม./ชม. แต่ตัวเลขจะไม่โชว์จะขึ้นเป็น — เมื่อความเร็วทะลุเลข 299 กม./ชม.
ภาพถ่ายจากกล้อง GoPro 6
พูดถึงระบบ Reverse Rotating Crankshaft ในเครื่องยนต์ จังหวะที่เทสไรเดอร์จะเปิดคันเร่งออกจากโค้ง จะมีช่วงเสี้ยววินาทีที่เครื่องยนต์เหมือนจะรอรอบเล็กน้อย แล้วรอบเครื่องยนต์ค่อยดึงรถพุ่งทะยานออกไป คือ เสี้ยววินาทีจริงๆนะ รถ Panigale V4S ให้ความรู้สึกในการออกจากโค้งได้ง่ายและไวมากๆ ไม่ใช่กระชากจนรถเสียอาการเหมือนรถคลาสพันยี่ห้ออื่นๆ ระบบนี้ถือว่าเก็บเวลาขึ้นมาได้อีก 0.05 วินาที ต่อโค้งก็ว่าได้!!
V4S Full Race 226 แรงม้า : MotoWish
ความเร็วช่วงเกียร์ต่อเกียร์นั้น ให้ความรู้สึกที่รุนแรงรอบเครื่องยนต์กวาดได้รวดเร็วกว่า ฟิลลิ่งเหมือนรถเบาขึ้นอีกสเตปกดคันเร่งแบบเบาๆตัวปลิวเลย ตอนเทสได้แต่อุทานสั้นๆลั่นในหมวกว่า “โคตรแร๊งงส์!!”
ระบบเบรก
ความรู้สึกในการหยุดรถที่ความเร็วระดับแตะ 300 กม./ชม. ที่สุดทางตรงสนามช้างฯ โดยมีระยะทางเหลือประมาณ 250 เมตร ก่อนถึงจุดเลี้ยวเข้าโค้งที่ 3 ระบบเบรกเดิมๆของ Panigale V4S ทำได้อย่างยอดเยี่ยมจนน่าแปลกใจ คาลิปเปอร์และจานเบรกให้ฟิลลิ่งการกะระยะได้อย่างแม่นยำ ความรู้สึกที่ถ่ายทอดมายังก้านเบรกไม่ได้นิ่มจนเกินไปให้ฟิลลิ่งการเบรกได้แบบพอดีๆ กดน้อยเบรกน้อยกดมากเบรกมาก
รวมทั้งระบบอิเล็คทรอนิกส์ที่มีให้การตอบสนองการเบรก ไหลเข้าไปได้ถึงเกือบกลางโค้ง โดยที่รถปกติทั่วไปจะมีอาการรถตั้งขึ้นเมื่อเบรกหน้าในโค้ง แต่ V4S อาการดังกล่าวน้อยกว่ารถคลาสพันยี่ห้ออื่นๆ จึงทำให้สามารถใช้ความเร็วในการส่งรถเข้าไปในโค้งได้มากกว่าและเร็วกว่า
อาจจะมีบางคนแอบเถียงในใจว่าเวลารถอยู่ในโค้งเขาห้ามใช้เบรกหน้ากัน!! เทสไรเดอร์ไม่อธิบายเยอะนะ แนะนำให้ไปดูการแข่ง WorldSBK , MotoGP ว่านักแข่งใช้เบรกกันยังไงจะได้เปิดโลกทัศน์ !!
V4S Full Race 226 แรงม้า : MotoWish
Brembo Rossi หมุดทอง ทำระยะเบรกช่วงสุดทางตรงสนามช้างฯ ลึกเข้าไปได้อีกถึง 200 เมตร ก่อนเลี้ยวเข้าโค้ง 3 เป็นอารมณ์ที่ต้องแลกมาด้วยความมันส์ปนความเสียว !!
ระบบกันสะเทือนและช่วงล่าง
ถึงแม้เวลาในการ Setting ระบบโช้คไฟฟ้าของ Panigale V4S จะมีเวลาค่อนข้างน้อย แต่การใช้โหมดที่เหมาะสมกับการลง Track ก็ทำให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการเข้าโค้งได้อย่างยอดเยี่ยม จากภาพจะเห็นได้ว่าการแบนโค้งเข่าไม่ได้กางมากนัก ปลายพักเท้าห่างจากพื้นแทรคไม่น่าเกิน 3 นิ้ว ยังสามารถลงได้อีกแต่เทสไรเดอร์ก็ต้องขี่แบบเพลย์เซฟด้วย
ระบบโช้คไฟฟ้า Panigale V4S ตอบสนองการขับขี่ได้ดีเกินพอสำหรับมือใหม่และมือเก๋า จะเรียกว่าเป็นรถที่เข้าโค้งได้แคบและเลี้ยวได้ไวที่สุดตั้งแต่เคยทดสอบมาก็คงไม่ผิด การซับแรงสะเทือนและการ Setting ทำได้ในระดับ Race คือรถเดิมๆก็ลงแข่งได้เลย เพียงแต่ฝีมือคุณไปได้สุดความสามารถของรถหรือไม่…แค่นั้นเอง!! การตอบสนองฟิลลิ่งของการขี่ทุกอย่างดูง่ายไปหมดสำหรับระบบโช้คไฟฟ้าของ V4S คนขี่มีหน้าที่บิดคันเร่งเข้าโค้งให้ถูกไลน์เปิดคันเร่ง ที่เหลือก็แค่รอเสพความเร้าใจ บอกเลยว่า…ยิ่งขี่ยิ่งมันส์!!
ระบบอิเล็คทรอนิกส์
ขอพูดถึงจุดสำคัญๆพอเพราะรายละเอียดต่างๆของระบบอิเล็คทรอนิกส์ ดูจากภาพที่เจาะตัวรถไปข้างต้นน่าจะทำความเข้าใจกันได้ในระดับหนึ่ง ระบบ DWC – Ducati Wheelie Control EVO ป้องกันการยกล้อ เทสไรเดอร์กระแทกคันเร่งออกจาก โค้งเช็คอิน ของสนามช้างฯคือโค้งที่ 12 (นักแข่งชอบมาคว่ำโค้งนี้ 555+)
สังเกตที่โช้คหน้าถูกยืดสุดระยะของโช้ค แต่ล้อแทบจะไม่ลอยจากพื้นแทรคเลย ความรู้สึกในหัวตอนขี่ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า “เห้ยยย ทำไมไม่ยกล้อฟร๊ะ” นักกับช่างภาพไว้นะ.. พอสัญญาณไฟแดงของสนามขึ้นเตือนหมดรอบ กลับเข้าพิทไปเช็คดูที่หน้าจอถึงได้รู้ว่าตั้งระบบ DWC ไว้ตำ่มากๆ ล้อหน้าเลยไม่ยก!! นึกสภาพออกจากโค้งเกียร์ 2 ยังไงๆก็ต้องยก ระบบของรถ Panigale V4 นี้สุดจัดจริงๆ
ส่วนระบบ DQS – Ducati Quick Shift up/down EVO เปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงโดยไม่ต้องกำคลัทช์ ระบบนี้ให้การตอบสนองได้ไวมากๆแทบจะไม่มีช่องว่างของการต่อเกียร์เลย เอามือไปคอนโทรลแฮนด์รถให้มันส์ๆดีกว่า แต่เทสไรเดอร์มีความรู้สึกว่าตอนที่ใช้ปลายเท้าเปลี่ยนเกียร์ต้องออกแรงกดคันเกียร์มากหน่อย
ยางติดรถ
ยาง Pirelli Diablo รุ่น Supercorsa SP ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากยางแข่งขัน WorldSBK ให้ฟิลลิ่งการเกาะผิวแทรคอยู่ในระดับที่ดีมาก เนื้อยางข้างค่อนนิ่ม การเลี้ยวโค้งไม่ว่าจะเป็นโค้งแคบความเร็วต่ำ หรือโค้งกว้างความเร็วสูงเกิน 200 กม./ชม. ถือว่าเหมาะสมกับรถ Panigale V4S เพียงแต่ต้อง Setting ลมยางให้เหมาะสมกับอุณหภูมิของผิวแทรค เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
บทสรุป Ducati Panigale V4S แบบ Standard และเวอร์ชั่น Full Race
#FollowMe คำจัดกัดความสั้นๆคือ “รถซุปเปอร์ไบค์ที่ดีที่สุดแห่งปี” เทคโนโลยีที่ถูกถ่ายทอดมาจากรถแข่ง MotoGP สู่รถโปรดักส์ชั่นทำได้อย่างไม่มีที่ติ รถเบา เลี้ยวเร็ว ออกจากโค้งไว เครื่องยนต์รวมทั้งระบบอิเล็คทรอนิกส์ระดับสุดยอด และขี่โคตรมันส์ถ้าฝีมือคุณถึงพอ
ข้อดี
- แรงม้า แรงบิด ของเครื่องยนต์ถูกใจสำหรับคนที่โหยหาความสุดยอด
- ระบบอิเล็คทรอนิกส์ช่วยในการขับขี่สำหรับรถสปอร์ตถือว่าล้ำที่สุดในยุค พ.ศ. นี้
- รถมีความแรง เร็ว เบา เลี้ยวง่าย เข้าโค้งและออกจากโค้งได้อย่างไวสุดๆ
- มิติตัวรถกระทัดรัดเหมือนรถ Supersport 600 ซีซี
- รูปลักษณ์ ความสวย ความโหด อยู่ในระดับยอดเยี่ยม
ข้อแนะนำ
- รถมีเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่มากมาย เจ้าของรถควรทำความเข้าใจเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
- รถมีความแรงมาก มือใหม่ควรทำความคุ้นเคยให้ดีก่อนใช้ความเร็วสูง
- หากขี่ในสนามความเร็วสูง ต้องฟิตร่างกายพอสมควร
- ขาตั้งรถใช้งานไม่สะดวก ทั้งจังหวะเอาขึ้นและลง
- เวลาเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลง ต้องใช้แรงที่ฝ่าเท้ามากกว่าปกติ
- เรื่องความร้อนของเครื่องยนต์ยังคงมีอยู่ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ในสไตล์รถสปอร์ต
Panigale V4
|
Red
|
969,900
|
Panigale V4 S
|
Red
|
1,169,000
|
Panigale V4 Plus Acc. Package
|
Red
|
1,168,999
|
Panigale V4 S Plus Acc. Pakage
|
Red
|
1,368,999
|
Panigale V4 Plus Acc. Package II
|
Red
|
1,209,000
|
Panigale V4 S Plus Acc. Pakage II
|
Red
|
1,409,000
|
- ราคาวางจำหน่าย ณ เดือนพฤษภาคม 2562
- ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นตัวแทนจำหน่าย
- ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
- ค้นหาตัวแทนจำหน่าย Ducati เพิ่มที่นี่
Specification Ducati Panigale V4S
Engine
Desmosedici Stradale 90° V4, rearward-rotating crankshaft, 4 Desmodromically actuated valves per cylinder, liquid cooled
Displacement – 1,103 cc
Bore X stroke – 81 x 53.5 mm
Compression ratio – 14.0:1
Power – 157.5 kW (214 hp) @ 13,000 rpm
Torque – 124.0 Nm (91.5 lb-ft) @ 10,000 rpm
Fuel injection
Electronic fuel injection system. Twin injectors per cylinder. Full ride-by-wire elliptical throttle bodies. Variable length intake system
Exhaust
4-2-1-2 system, with 2 catalytic converters and 2 lambda probes
Transmission
Gearbox
6 speed with Ducati Quick Shift (DQS) up/down EVO
Primary drive
Straight cut gears; Ratio 1.80:1
Ratio
1=38/14 2=36/17 3=33/19 4=32/21 5=30/22 6=30/24
Final drive
Chain; Front sprocket 16; Rear sprocket 41
Clutch
Hydraulically controlled slipper and self-servo wet multiplate clutch
Chassis Frame – Aluminum alloy “Front Frame”
Front suspension
Öhlins NIX30 43 mm fully adjustable fork with TiN treatment. Electronic compression and rebound damping adjustment with Öhlins Smart EC 2.0 event-based mode
Rear Suspension
Fully adjustable Ohlins TTX36 unit. Electronic compression and rebound damping adjustment with Öhlins Smart EC 2.0 event-based mode. Aluminium single-sided swingarm
Front Wheel
5-spokes light alloy 3.50” x 17”
Rear Wheel
5-spokes light alloy 6.00” x 17”
Front tyre
Pirelli Diablo Supercorsa SP 120/70 ZR17
Rear tyre
Pirelli Diablo Supercorsa SP 200/60 ZR17
Wheel travel (front/rear)
120 mm (4.7 in) – 130 mm (5.1 in)
Front brake
2 x 330 mm semi-floating discs, radially mounted Brembo Monobloc Stylema® (M4.30) 4-piston callipers with Bosch Cornering ABS EVO
Rear brake
245 mm disc, 2-piston calliper with Bosch Cornering ABS EVO
Instrumentation
Last generation digital unit with 5″ TFT colour display
Dimensions and weights
Kerb weight – 195 kg (430 lb)
Seat height – 830 mm (32.48 in)
Wheelbase – 1.464 mm (57,64 in)
Rake – 24,5°
Front wheel trail – 100 mm (4 in)
Fuel tank capacity – 16 l – 4.23 gallon (US)
Number of seats – Dual seats
Equipments
Safety Equipment
Riding Modes, Power Modes, Bosch Cornering ABS EVO, Ducati Traction Control (DTC) EVO, Ducati Wheelie Control (DWC) EVO, Ducati Slide Control (DSC), Engine Brake Control (EBC) EVO, Auto tyre calibration
Standard Equipment
Ducati Power Launch (DPL), Ducati Quick Shift (DQS) up/down EVO, Full LED lighting with Daytime Running Light (DRL), Ducati Electronic Suspension (DES) EVO with Ohlins suspension and steering damper, Quick adjustment buttons, Lithium-ion battery, Auto-off indicators
คลิปวิดีโอของระบบ Reverse Rotating Crankshaft ในเครื่องยนต์ Panigale V4
Desmosedici Stradale – V4 Reverse Rotating Crankshaft
MotoWish ขอขอบคุณ
Ducati Vibhavadi
Nitek Helmet 2 Power : หมวกเท่ๆสำหรับสายซิ่ง
146/2 ซ.ศูนย์วิจัย 14 ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 081-823-0181 , 099-640-0592
> ผู้ทดสอบ : @Rider 69
Source Cr.: Ducati
อ่าน Reviews เพิ่มที่นี่
อ่านข่าว Ducati เพิ่มที่นี่
เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่
Website : motowish.com
Facebook : facebook.com/motowish