Home  »  Reviews   »   รีวิว รถไฟฟ้า Cineco ES5 แรงสมูท 5000 วัตต์ พร้อมสเปคเหนือคู่แข่ง

รีวิว รถไฟฟ้า Cineco ES5 แรงสมูท 5000 วัตต์ พร้อมสเปคเหนือคู่แข่ง

หากใครได้ลองสัมผัสการขี่รถไฟฟ้าสกู๊ตเตอร์สักครั้ง เทสไรเดอร์รับประกันว่าจะติดใจจนอยากจะได้เป็นเจ้าของสักคันแน่นอน และวันนี้ก็ถึงคราวรถไฟฟ้าพรีเมี่ยมระดับท็อปไฟว์ของประเทศจีนแบรนด์ Cineco ES5 (ซีนิโค่) รุ่น อีเอสไฟว์ ที่กำลังเริ่มเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จะน่าสนใจแค่ไหนไปติดตามชมกัน…

รูปทรงภายนอก

ลองมาดูรูปทรงภายนอกรอบคันกันก่อน รถซีนิโค่ ถูกผลิตจากผู้ผลิตระดับท็อปไฟว์ของประเทศจีนนามว่า ซอง เชน โดยวางโปรดักส์และคุณภาพไว้ในระดับพรีเมียม ซึ่งในรุ่น ES5 ทำราคาขายพิเศษช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 149,900 บาท จากราคาปกติ 159,900 บาท มีด้วยกันทั้งหมด 3 สี คือ สีขาว-น้ำเงิน , สีขาว-เขียว , สีเทาดำ-ส้ม

โดยรถทั้ง 2 คัน ที่นำมาทดสอบในครั้งนี้เป็นรถโปรโตไทป์ ซึ่งรถที่วางจำหน่ายจริงจะมีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อย มองผ่านๆโดยรวมนั้นลายเส้นการออกแบบและสีสันรูปทรงดูดีล้ำสมัยตามสไตล์รถไฟฟ้าทีเดียว เริ่มกันที่ด้านหน้าตัวรถ ระบบไฟส่องสว่าง Full LED ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์สองลูกเปรียมเสมือนดวงตาซ้ายขวา ด้านบนของไฟหน้ามี ไฟเดย์ไลท์ คล้ายตัวอักษร X บังโคลนหน้าออกแบบตัดช่วงปลายบังโคลนออก ดูสวยแปลกตารับกับด้านข้างตัวรถได้ดี

ไฟเบรกด้านหลังคล้ายตัวอักษร X อีกเช่นกัน ไฟเลี้ยวฝังอยู่ในกรอบเดียวกับไฟเบรกไม่ยื่นออกมาเกะกะ แถมสายชอบแต่งรถไม่ต้องถอดออกให้เสียเวลาอีก บังโคลนหลังแยกส่วนออกมาเหมือนแบบของแต่ง

ถัดมาที่หน้าจอเรือนไมล์เป็นแบบ TFT Color (Auto ปรับแสงอัตโนมัติ) สามารถเลือกปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 4 แบบ ความเฟี้ยวความเท่เรียกได้ว่า รถซุปเปอร์ไบค์บางรุ่นดูล้าหลังไปเลย ที่หน้าจอแบบวงกลม โชว์ตัวเลขความเร็วสูงสุดไว้ที่ 150 กม./ชม.

 

ส่วนรายละเอียดการแสดงผลนั้นมีมาให้ครบทุกฟังก์ชั่น โหมดการขับขี่เลือกได้ 3 รูปแบบ

  • SPORT
  • COMFORT
  • ECO

และจะมีหน้าจอที่เป็นในส่วนของการเชื่อมต่อ แอปพลิเคชั่นของตัวรถ ซึ่งรถที่ขายในประเทศไทยปัจจุบันยังไม่มีแอปพลิเคชั่นรองรับ ทางบริษัทมีแผลนจะทำในอนาคต

สวิทช์ฝั่งซ้าย : สวิทช์ R ถอยหลัง, ครูสคอนโทรล, เลือก MODE, SETTING, สวิทช์ไฟสูง–ต่ำ, ไฟเลี้ยว, แตร, Burst Mode เร่งความเร็ว

 

สวิทช์ฝั่งขวา : สวิทช์ฉุกเฉิน, P (Park ปลดล็อคการจอด) , ไฟสูง-ต่ำ, D-MODE เลือกโหมดการขับขี่

ปั้มเบรกตัวบน ถ้วยน้ำมันเบรกใส่แบบของแต่งมาให้เลย ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ส่วนก้านเบรกก็เป็นแบบแต่งอีกเช่นกันสไตล์งาน CNC พร้อมปรับระยะก้านเบรกได้อีกต่างหาก เอากับพี่จีนซิ๊!! ร้านขายของแต่งมีเคืองละงานนี้

กุญแจแบบ Keyless รูปทรงดูแพงเหมือนของทางฝั่งรถยนต์เลย มีด้วยกัน 3 ปุ่ม (1.ปลดล็อครถ 2.ล็อครถ 3.ปิดเสียงตัวรถ) พร้อมสัญญาณกันขโมย

เลขเฟรมรถจะถูกซ่อนอยู่ใต้พลาสติกสีดำตรงกลางระหว่างขา สามารถปิดเปิดได้

ช่องเก็บของคอนโซลด้านหน้าซ้ายมือมีที่ชาร์จไฟสำรอง 12V แบบ USB Type A (เทสไรเดอร์ ขอติว่าช่องเก็บของเล็กเกินไปหน่อย ใส่มือถือไปแล้วเครื่องโผล่เกินมาครึ่งนึงเลย)

ระบบช่วงล่างโช้คอัพหน้าเทเลสโคปิค ขนาดใหญ่ 33 มิลลิเมตร ช่วงยุบ 106 มิลลิเมตร และด้านหลังเป็นแบบโช้คอัพคู่ช่วงยุบ 67 มิลลิเมตร สามารถปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ

สวิงอาร์มมีขนาดใหญ่กว่ารถไฟฟ้าจีนทั่วไปถึง 2 เท่าตัว วัสดุดูแข็งแรง สังเกตตรงมาร์คตั้งระยะล้อรวมทั้งหัวน็อต ทำได้ดีใส่ใจรายละเอียดพอสมควร ไม่ใช่แบบขีดเส้นเล็กๆหรือใช้น็อตร้อยแกนแบบทั่วๆไป

Cineco ES5 (ซีนิโค่) ให้ระบบดิสเบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมระบบเบรกแบบ CBS Combi Brake System ด้านหน้าจะสังเกตได้ว่าจานเบรกและคาลิปเปอร์ขนาดใหญ่มาก แทบจะเต็มวงล้อขนาด 14 นิ้ว เลยทีเดียว

 

ล้อแม็คอัลลอยด์ ขนาดล้อหน้า 3.00 x 14 นิ้ว ขนาดล้อหลัง 3.50×13 นิ้ว โดยรถทดสอบนั้นใส่ยางยี่ห้อ DURO รุ่น DM1060 ยางหน้าขนาด 110/80-14 ยางหลังขนาด 130/60-13

ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5,000 วัตต์ แบบ High Efficiency Mid Motor (ประสิทธิภาพสูง มอเตอร์ขับกลาง) ให้กำลังสูงสุด 8.4 กิโลวัตต์ เท่ากับ 11 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตร กันน้ำผ่านมาตราฐาน (IP67)​ และลุยน้ำท่วมได้ไม่ต่ำกว่า 30 ซม. ตามมาตราฐานที่กำหนดไว้ของ สมอ. ประเทศไทย ส่วนการชาร์จไฟนั้นใช้ระบบ AC

 

จุดเด่นที่ต้องพูดถึงคือ การวางตำแหน่งมอเตอร์อยู่กลางลำตัวรถ หรือที่เรียกว่า Mid Motor นั้นมอเตอร์ถูกติดตั้งอยู่ใต้กล่องแบตเตอรี่ ที่อยู่ใต้เบาะนั่งอีกที และใช้สายพานในการขับเคลื่อนล้อหลัง

 

ทำให้การขับขี่มีความสมูทเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งการถ่ายเทบาลานซ์น้ำหนักหรือ CG นั้นอยู่ในระดับที่ต่ำ การคอนโทรลและเลี้ยวเข้าโค้งต้องดีกว่ามอเตอร์แบบ HUB แน่ๆ เดี๊ยวไปรอดูผลช่วงทดสอบกัน

ตำแหน่ง แบตเตอรี่แบบ ลิเธียม ไอออน วางอยู่ใต้พื้นที่วางเท้า จำนวน 2 ก้อน ขนาดความจุ 60V / 31Ah (ต่อ 1 ก้อน) น้ำหนักแบตเตอรี่ 12 กก. (ต่อ 1 ก้อน) ใช้ระยะเวลาในการชาร์จจาก 0-100% เต็มประมาณ 8 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จ 30-80% ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง อายุการชาร์จของแบตเตอรี่ประมาณ 1,000 ครั้ง โดยทั้งหมดต่อวงจรแบบขนาดกัน

เท่ากับว่าโดยปกติรถ Cineco ES5 (ซีนิโค่) จะมีแบตเตอรี่ให้พร้อมตัวรถจำนวน 2 ก้อน และลูกค้าสามารถซื้อเพิ่มได้อีก 1 ก้อน (ราคา 39,000 บาท/ก้อน) ซึ่งใส่เพิ่มได้ที่ใต้เบาะนั่ง ทำให้แบตเตอรี่โดยรวมทั้งหมด 3 ก้อน จะมีขนาดความจุ 60V / 93Ah น้ำหนักรวมแบตเตอรี่ทั้งหมด 3 ก้อน = 36 กก.

แบตเตอรี่สามารถถอดออกจากตัวรถ เพื่อชาร์จในบ้านได้อย่าสะดวกในกรณีที่ไม่สามารถพ่วงชาร์จกับตัวรถได้ และตัวรถมีชาร์จเจอร์มาให้พร้อมขนาด 800 วัตต์ สำหรับการชาร์จ

 

สำหรับ ภาพรวมของวัสดุและการประกอบตัวรถรวมทั้งดีไซน์ ถือว่าทำได้ดีเกินความคาดหมาย

เริ่มทดสอบ…

การตอบสนองของระบบมอเตอร์ และระบบอิเล็คทรอนิกส์

 

ในการรีวิวครั้งนี้ทีมสื่อมวลชนที่ทำการทดสอบรถ Cineco ES5 (ซีนิโค่) วางแผนมาเทสกันที่ บางแสน จ.ชลบุรี เนื่องจากมีพื้นที่ให้ลองขึ้นเขาลงเขา เพื่อคลอบคลุมการใช้งานได้เต็มรูปแบบเหมือนซื้อไปใช้ในชีวิตจริง

 

โดยมีรถให้ทดสอบด้วยกัน 2 คัน คันแรกใส่แบตเตอรี่ 2 ก้อน คันที่สองใส่แบตเตอรี่ 3 ก้อน น้ำหนักตัวรถเปล่านั้นอยู่ที่ 108 กก. รวมกับแบตเตอรี่อีก 2 ก้อน (มาตราฐาน) = 132 กก. และถ้าเพิ่มอีก 1 ก้อน = 144 กก.

 

ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิตเคลมระยะทางสูงสุด 150 กิโลเมตร/การชาร์จ แบตเตอรี่ 2 ก้อน (230 กิโลเมตร/การชาร์จ แบตเตอรี่ 3 ก้อน)

เทสไรเดอร์เริ่มต้นการทดสอบด้วยการเลือกโหมด SPORT ลองให้รู้เรื่องไปเลยว่ามอเตอร์ขนาด 5,000 วัตต์ นั้นจะแรงแค่ไหนกัน ก่อนจะออกตัวต้องปลดล็อครถที่กำลังจอดอยู่ สังเกตที่หน้าจอจะขึ้นตัวอักษร P ให้เรากดปุ่ม P ที่สวิทช์ฝั่งขวามือ

 

ตัวอักษร P ที่หน้าจอจะหายไป และแทนที่ด้วยโหมดการขับขี่ที่เราเลือกจากปุ่ม D-Mode ที่สวิทช์ฝั่งขวามือแถวๆนิ้วโป้ง

จากนั้นบิดคันเร่งออกรถได้เลย ไม่ต้องงงกับการหาปุ่มสตาร์ทรถนะ?? เพราะมันไม่มี!! การบิดคันเร่งช่วงจังหวะแรกจะมีรอบเหลือเล็กน้อย ก่อนรถจะเร่งออกตัวไปได้ ใครเผลอกดเต็มคันเร่งมีเหว่อแน่นอน เพราะจังหวะรถพุ่งออกตัวไปในโหมด SPORT ช่วงต้นแรงบิดของมอเตอร์ดึงเอาเรื่องเหมือนกัน ท็อปสปีดจากการทดสอบขี่บนถนนจริงนั้น ทำความเร็วได้ประมาณ 100 กม./ชม. (อาจจะมีบวกอีกเล็กน้อย ถ้าคนขี่น้ำหนักตัวไม่มาก)

 

ความสมูทของมอเตอร์และอัตราเร่งถือได้ว่าทำได้อย่างดีเยี่ยมในโหมด SPORT โดยเฉพาะรถคันที่ใส่แบตเตอรี่ 3 ก้อน (93Ah) มีความแรงแตกต่างจากรถคันที่ใส่แบตเตอรี่ 2 ก้อน (62Ah) แบบรู้สึกได้ชัดเจน ตอนเร่งความเร็วตั้งแต่ช่วง 60 กม./ชม. ขึ้นไปจนถึง 100 กม./ชม. เรียกได้ว่าทิ้งกันหลายช่วงคันรถยนต์เลยทีเดียว

 

มาลองกันที่โหมด COMFORT (ล็อคความเร็วที่ 80 กม./ชม.) และ ECO (ล็อคความเร็วที่ 60 กม./ชม.) แรงบิดลดลงตามลำดับอารมณ์เหมือนขี่รถไฟฟ้ามอเตอร์ 2000W แต่ถ้าจังหวะจะเร่งแซงรถคันอื่นแนะนำให้กดปุ่ม Burst Mode ด้านหน้าของสวิทช์ฝั่งซ้ายมือ โดยใช้นิ้วชี้ มอเตอร์ไฟฟ้าจะเพิ่มแรงบิดขึ้นมาอย่างรวดเร็วในทันที สามารถกดแช่ได้นานถึง 6 นาที

เทสไรเดอร์ชอบใจโหมดครูสคอนโทรลมาก เนื่องจากเวลาที่ต้องขี่รถในทางตรงยาวๆโล่ง โหมดนี้ให้ความสะดวกสบายมือจริงๆ ความเร็วที่จะใช้ในโหมดนี้ได้คือตั้งแต่ 60 กม./ชม. ขึ้นไป

 

เมื่อตัวรถใช้งานแบตเตอรี่จนเหลือแค่ 20% ระบบจะตัดเข้าสู่ ECO โหมด เพื่อประหยัดพลังงาน ซึ่งยังคงขี่ไปได้ระยะทางอีกประมาณ 20 กว่า กม.

การคอนโทรล

โพซิชั่นท่านั่งในการขับขี่เหมือนรถสกูตเตอร์แบบสมัยใหม่ เบาะนั่งเว้ากระชับนั่งสบายทีเดียว

 

การออกแบบตำแหน่งมอเตอร์อยู่กลางลำตัวรถ หรือที่เรียกว่า Mid Motor นั้นส่งผลให้การคอนโทรลรถทำได้อย่างน่าทื่ง เนื่องจากแรงกระทำจะน้อยกว่ารถที่ติดตั้งมอเตอร์แบบ HUB ช่วงจังหวะเข้าโค้งหักศอกแคบๆบนเขาสามมุข รถ Cineco ES5 (ซีนิโค่) เลี้ยวได้คมมากๆ อารมณ์การขี่เปรียบเสมือนรถซุปเปอร์ไบค์ผสมรถโกคาร์ท

 

น้ำหนักโดยรวมที่อยู่ต่ำนั้น ทำให้แรงเหวี่ยงช่วงเข้าโค้งทำได้อย่างดีเยี่ยม ปกติเวลาเข้าโค้งเราต้องยกคันเร่ง แต่กับ อีเอสไฟว์ สามารถกดคันเร่งเข้าโค้งไปได้เลย ขี่ได้สนุกมันส์มือจริงๆ

ระบบกันสะเทือนและช่วงล่าง

 

ถนนที่เป็นแอสฟัลท์หรือยางมะตอยแบบเรียบๆ บอกเลยว่าช่วงล่างของ Cineco ES5 (ซีนิโค่) เกาะถนนได้ดีมากๆ เรียกได้ว่าดีที่สุดในบรรดารถ EV ที่เทสไรเดอร์เคยทดสอบมา ช่วงทางตรงไฮสปีดกดมาแบบเต็มคันเร่ง แล้วสาดโค้งไปแบบเต็มที่ สังเกตขาตั้งเกือบจะขูดพื้นถนนได้เลย โช้คหน้าและหลังให้ฟิลลิ่งนุ่มหนึบ โช้คอัพหลังไม่แข็งเหมือนรถไฟฟ้าทั่วไป ซึ่งสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้มากสุดที่ 150 กก.

 

แต่มีข้อสังเกตเมื่อเจอถนนที่ขรุขระ แรงสั่นสะเทือนที่แฮนด์จะรู้สึกได้อย่างชัดเจน เทสไรเดอร์ไม่แน่ใจว่ามาจากแผงคอ หรือ ลูกยางซับแรงกันแน่ อาจจะต้องให้ทางผู้ผลิตรีเช็คอีกครั้ง

ระบบเบรก

ระบบเบรกด้านหน้านั้นฟิลลิ่งการเบรกให้อารมณ์เหมือนใส่ปั้มแต่ง เบรกหยุดได้ทุกระยะตามสั่ง เจออะไรตัดหน้าแบบกระทันหันก็สามารถหยุดรถได้จริงๆ ไม่ต้องมีลุ้นว่าจะชนไหม๊ และก็ไม่ใช่ฟิลลิ่งเบรกแบบทือๆ เหมือนเบรกติดรถทั่วๆไป

 

 

ยางติดรถ

เทสไรเดอร์เคยได้ทดสอบยางยี่ห้อ DURO แล้วเนื้อยางก็จะให้ความรู้สึกแบบกลางๆค่อนข้างไปทางแข็งเล็กน้อย ซึ่งก็เป็นปกติสำหรับยางที่ใส่ในรถทั่วไป เพื่อต้องการระยะทางในการวิ่งที่มากและทนทานกว่า แต่ก็ให้ฟิลลิ่งการเกาะถนนได้ดีระดับนึง สามารถเทโค้งได้ในระดับที่มั่นใจ ควรเช็คลมยางเพื่อประสิทธภาพสูงสุดในการเกาะถนน

บทสรุป

Cineco ES5 (ซีนิโค่) รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าท็อปไฟว์จากผู้ผลิตประเทศจีน รูปทรงล้ำสมัยสวยงาม พร้อมเทคโนโลยีและการออกแบบที่มีจุดเด่นหลายด้าน ซึ่งผ่านการทดสอบจากเทสไรเดอร์แล้วว่ารถอยู่ในระดับที่ดี ถ้าอยากเฟี้ยวไม่เหมือนใคร และเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ ก็จัดสักคันแล้วไปสัมผัสประสบการณ์ EV ด้วยกัน

 

 

ข้อดี

  • มอเตอร์ขนาด 5000 วัตต์ ตอบสนองการใช้งานได้ตั้งแต่วัยรุ่นใจร้อน ถึงวัยเก๋าจอมซ่า
  • มอเตอร์ Mid Drive และตำแหน่งแบตเตอรี่ใต้ที่วางเท้า ทำให้จุดศูนย์ถ่วงรถอยู่ต่ำและบาลานซ์น้ำหนักรถได้ดี ทำให้การเข้าโค้งทำได้ในระดับดีมาก
  • เพิ่มแบตเตอรี่ได้อีก 1 ก้อน ทำให้เพิ่มระยะทางขึ้นอีกสำหรับคนที่ไม่สะดวกแวะชาร์จ
  • ระบบเบรกดีมาก ไม่ต้องใส่ของแต่งเพิ่มให้เสียเงิน
  • ระบบช่วงล่างอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าคู่แข่งในคลาสเดียวกัน

 

ข้อแนะนำ

  • หากเจอถนนขรุขระ แฮนด์รถมีอาการสั่นสะเทือนพอสมควร
  • ความเร็วสูงสุดน้อยไปหน่อย แต่ก็แลกมากับระยะทางขี่ได้ไกลขึ้น
  • ตัวอักษรที่หน้าจอ บางตัวเล็กเกินไป มองไม่ชัดเจน
  • ที่เติมลมควรเปลี่ยนเป็นแบบข้องอ 90 องศา จะได้สะดวกเวลาเติมลม

รุ่นรถและสี

ราคาขายพิเศษช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 149,900 บาท จากราคาปกติ 159,900 บาท 

  • ราคาวางจำหน่าย ณ เดือนสิงหาคม 2566

 

มีสีให้เลือกทั้งหมด 3 สี 

  • สีขาว-น้ำเงิน (Light White Dark Blue)
  • สีขาว-เขียว (Light White Shiny Green)
  • สีเทาดำ-ส้ม (Midnight Grey Shiny Orange)
  • จัดไฟแนนซ์ได้สูงสุด 48 งวด
  • ทะเบียน/พรบ/ประกันรถหาย
  • รับประกันมอเตอร์ 3 ปี
  • รับประกันแบตเตอรี่ 2 ปี
  • รับประกันระบบไฟฟ้า 1 ปี
  • ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นตัวแทนจำหน่าย
  • ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

 

สนใจสั่งซื้อ / สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  Line Add : motowish

MotoWish ขอขอบคุณ

บจ. ซอง เชน แมชชินเนอรี แมนูแฟคเจอริ่ง (ไทยแลนด์) เอื้อเฟื้อรถทดสอบ

 

ผู้ทดสอบ : @Rider 69

อ่าน Rivews เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว รถไฟฟ้า เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish