หากพูดถึงรถ SUV โดยส่วนมากจะนึกถึงรถยนต์เอนกประสงค์คันใหญ่ๆ สูงๆ ไม่ค่อยมีใครนึกถึงรถจักรยานยนต์สักเท่าไหร่ แล้วจะดีไหม ถ้านำรูปแบบรถ SUV มาใช้กับจักรยานยนต์ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการขับขี่มากขึ้น

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำว่า SUV กันสักหน่อย SUV ย่อมาจาก Sport Utility Vehicle คำนิยามง่ายๆก็คือ รถที่มีความอเนกประสงค์ มีประโยชน์ใช้สอยได้มากกว่าปกติ มีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก และยังคงความสปอร์ต สวยงามไว้อยู่ด้วย

และสิ่งนี้นี่เอง ทำให้ ฮอนด้า มองเห็น และสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาดรถจักรยานยนต์ โดยการพลิกโฉมรถสกู๊ตเตอร์ ให้เป็นรูปแบบ SUV Bike ใช้งานได้เอนกประสงค์ ทางดำก็ได้ ทางฝุ่นก็ดี บอกเลยว่ารถรุ่นนี้สร้างความเกรียวกราวตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ย้อนกลับไปปี 2015 ในงาน EICMA ประเทศอิตาลี ฮอนด้า ได้โชว์รถคอนเซ็ปไบค์แนวสกู๊ตเตอร์ครอสโอเวอร์ ในนาม “ADV” ซึ่งเป็นที่กล่าวถึงในวงการจักรยานยนต์กันทั่วโลก เพราะมีความโดดเด่นในรูปแบบ ดีไซน์ และสไตล์ของรถ ทำให้บรรดาสื่อมวลชน และผู้ที่ชื่นชอบเฝ้าติดตามข่าวรถคันนี้ตลอดทั้งปี จนที่สุด เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2016 ในงาน EICMA ฮอนด้า ได้เผยโฉม รถแนวสกู๊ตเตอร์สายลุยอย่างเป็นทางการ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดตัว X-ADV เป็นทางการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ครั้งแรกของ X-ADV ที่มาถึงประเทศไทย ได้ฤกษ์เปิดตัวในงาน Motor Show 2017 สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่แฟนๆชาวไทยด้วยดีไซน์ที่แปลกตาทันสมัย ใช้งานได้เอนกประสงค์ และเป็นสไตล์ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองไทยอย่างมาก

หลังจากนั้น 4 ปี เป็นธรรมดาของวงการยานยนต์ ที่ต้องเสริมนวัตกรรมใหม่ๆให้กับตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นรูปโฉม เทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานมากขึ้น ล่าสุด ปี 2021 All New Honda X-ADV ได้ฤกษ์เผยโฉมอีกครั้ง บนเวที Motor Show โดยเจเนอเรชั่นที่สองนี้ ได้เพิ่มเทคโนโลยี และความพรีเมียมขึ้นกว่าเดิม

All New Honda X-ADV ถูกวางตัวเป็นรถ SUV Bike ที่ครบเครื่อง ดีไซน์เฉียบคม ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานเอนกประสงค์ทั้งในเมือง และนอกเมือง พร้อมกับเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกแบบเต็มคัน ภายใต้แนวคิด “Let Your Instinct Lead The Way” ปล่อยสัญชาตญาณ…สร้างทางไป

วันนี้ทีมงาน MotoWish พาทุกคนมาดูตัวเป็นๆ และส่องไฮไลท์ของ All New Honda X-ADV กันที่ศูนย์ Honda BigWing ถนนเลียบด่วน-รามอินทรา และจะพาทดสอบให้รู้กันไปเลย!!

เริ่มตั้งแต่เดินเข้ามาที่ Honda BigWing เห็น All  New Honda X-ADV เป็นต้องสะดุดหยุดมอง ด้วยดีไซน์ที่ได้รับการปรังปรุงให้โฉบเฉี่ยวทันสมัยขึ้น โคมไฟหน้าออกแบบใหม่ทั้งระบบ ไฟหน้าแบบ LED มีเส้นสายของ Daytime Running Light ปรับความสว่างอัตโนมัติตามแสงภายนอก นี่มันฟีลรถยุโรปชัดๆ ส่วนกระจกบังลมหน้าเป็นรูปแบบใหม่ และปรับได้ถึง 5 ระดับ

เส้นสายของตัวรถ จากหน้าไปถึงด้านข้างให้ความรู้สึกละมุนขึ้น แต่ก็แฝงด้วยความสปอร์ต เฟรมรถออกแบบใหม่ ทำให้น้ำหนักลดลงไปถึง 1 กิโลกรัม ทั้งเพิ่มความแข็งแรง และทำให้ขับขี่ได้คล่องตัวมากขึ้น น้ำหนักรวมของรถอยู่ที่  235 กิโลกรัม และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพูดถึง คือสีเทาเฉดใหม่ Pearl Deep Mud Grey ให้ความรู้สึกหรูหรา ผู้ดี๊ ผู้ดี ซึ่งต้องบอกว่าในวงการยานยนต์ตอนนี้ สีเทาสไตล์นี้ ฮ็อตสุดๆ

มาต่อที่เครื่องยนต์กันบ้าง อย่างที่รู้กันดี X-ADV ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 750 ซีซี แต่รอบนี้เครื่องยนต์ถูกพัฒนาโดยปรับปรุงองศาการทำงานของวาล์วทั้งไอดีและไอเสียใหม่ ขยายพอร์ตไอดีจาก 36 มม. เพิ่มเป็น 38 มม. และลดน้ำหนักเครื่องยนต์ลงอีก 1.4 กก. รวมทั้งปรับอัตราทดเกียร์ใหม่ ส่งผลให้เครื่องยนต์ลูกนี้มีพละกำลังถึง 57.8 แรงม้า

เครื่องยนต์ที่ปรับปรุงใหม่ ทำงานร่วมกับคันเร่งไฟฟ้า (Throttle by Wire) ปรับตั้งโหมดการขับขี่ได้ถึง 5 โหมด มาดูกันหน่อย ว่ามีโหมดอะไรให้สนุกบ้าง?

โหมด Standard ขอเรียกว่าโหมดแล้วแต่ปุ๊… เหมาะสำหรับการขับขี่แบบปกติทั่วไป มีจุดเด่นคือการปรับความสมดุลทั้งการส่งกำลังของเครื่องยนต์ และระบบเบรกให้อัตโนมัติ ใช้ในการขับขี่ทั่วไปได้อย่างลงตัว

โหมด Sport โหมดพร้อมเงิบ จุดเด่นของโหมดนี้อยู่ที่ การรีด และส่งกำลังไว ช่วยให้อัตราการเร่งตอบสนองแบบรวดเร็วทันใจ บิดเป็นเงิบ

โหมด Rain โหมดแคล้วคลาด ใช้ขับขี่ในสภาวะฝนตก ถนนเปียกแฉะ จุดเด่นคือ การทอนพละกำลังของเครื่องยนต์ และปรับระบบเบรก ให้เหมาะสมกับสภาพท้องถนนที่เปียกลื่น ถ้าต้องขี่ลุยฝน ถนนเปียกมาก โหมดนี้โลด

โหมด Gravel โหมดตะลุย อยากจะตะกุยบนทางฝุ่น ทางลูกรัง หิน กรวด จัดโหมดนี้ให้สมกับเป็นรถแอดเวนเจอร์ และเตรียมพบกับความสนุกในการคอนโทรลรถในการลุยได้เลย โหมดนี้มีจุดเด่นที่การปรับกำลังส่งของเครื่องยนต์ให้สูงขึ้น และลดระบบ ABS ให้ต่ำลง

โหมด User หรือ โหมดเรื่องของGU อยากจะปรับตั้งค่าอะไร ก็สุดแท้แต่ผู้ขับขี่ ปรับเอง ขี่เอง นักเลงพอ ชอบการขับขี่แบบไหน สไตล์ไหน ที่เป็นตัวเอง เชิญตั้งค่าไว้เลยในโหมดนี้

อีกอย่างที่โคตรเทรนด์ นี่มันปี 2021 มีรถขี่ ต้องหน้าปัดจอสี!! หน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 5 นิ้ว เท่ และทันสมัย พื้นหลังยังปรับเฉดสีอัตโนมัติ เวลากลางวันปรับเป็นสีขาว กลางคืนปรับเป็นสีดำ การแสดงผลข้อมูลต่างๆ สามารถเลือกได้ถึง 4 รูปแบบ ตามความต้องการของเรา

มาถึงจุดเด่นประจำค่ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ยิ่งกว่าของดีประจำตำบล ก็คือ ระบบเกียร์ DCT (Dual Clutch Transmission) หรือระบบส่งกำลังแบบคลัตช์คู่อัตโนมัติ เกียร์เนี่ยก็มี 6 เกียร์เหมือนรถทั่วไป แต่จะแบ่งเป็นชุดคลัตช์เป็น 2 ชุด โดยชุดแรกควบคุมเกียร์ 1-3-5 ส่วนอีกชุดควบคุมเกียร์ 2-4-6 จึงไม่แปลกใจเลยที่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหล โดยความสนุกยังมีอีกคือ สามารถปรับการทำงานของเกียร์ได้เป็น 2 แบบ คือ แบบอัตโนมัติ (A) และ แบบแมนนวล (M)

ถ้าอยากชิล ให้เลือกโหมดอัตโนมัติ (A) ให้กล่องสมองกลคำนวณเกียร์ให้เหมาะสมกับโหมดการใช้งาน และรอบของเครื่องยนต์ เรามีหน้าที่บิดตามอารมณ์อย่างเดียว แต่ถ้าคัน อยากดัน ให้เลือกโหมดแมนนวล (M) เปลี่ยนเกียร์ เล่นเกียร์ ลากรอบเองได้ตามใจชอบ มีสวิตซ์เปลี่ยนเกียร์ (+) (-) อยู่ที่ประกับด้านซ้ายมือ เหมือนกับ Paddle Shift หลังพวงมาลัยรถยนต์ ยังไงอย่างงั้น

ด้านขวาของแฮนด์ เบรกของระบบ Parking Break หรือที่เรียกกันว่าเบรกมือ ถูกออกแบบใหม่โดยย้ายจากคอนโซลด้านขวามาอยู่ที่แฮนด์เดิลบาร์ด้านขวาแทน ขนาดเล็ก ดีไซน์ให้ใช้งานง่าย ที่สำคัญถ้าดึงเบรกมือค้างไว้อยู่ มันจะไปบังสวิตซ์สตาร์ท เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสตาร์ท และป้องกันการออกตัวโดยที่ยังดึงเบรกมือค้างอยู่ งานดีเทล ใส่ใจ คอตๆ!!

เก๋ไก๋ อีกระดับ!! สวิตช์จุดระเบิดใหม่ และระบบล็อกคอไฟฟ้า นี่ใช้แบบเดียวกับ CBR1000RR-R กันเป๊ะ สำหรับการใช้งาน เมื่อกดปุ่ม “PUSH” ตรงกลางจะเป็นการเปิดสวิตซ์ (ON) และ เมื่อบิดวงแหวนทวนเข็มนาฬิกาจะเป็น ปิดสวิตซ์ (OFF)  และหากจะล็อคคอรถ ก็บิดวงแหวนทวนเข็มนาฬิกาค้างไว้

การขี่รถนานๆ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ เบาะนั่ง X-ADV ได้ปรับเบาะนั่งใหม่ รองรับท่วงท่าการขับขี่ให้สบายขึ้น เบาะนั่งสไตล์ Adventure มีความหนานุ่ม ช่วยลดการปวด การชาก้น และส่วนหน้าของเบาะ หรือบริเวณระหว่างขายามนั่งขับขี่ ปรับดีไซน์ใหม่ ให้ความกว้างลดลง เป็นข้อดีที่ทำให้เราเหยียดขาลงเท้าได้เต็มพื้นมากขึ้น ส่วนความสูงเบาะอยู่ที่ 790 ซม. สำหรับการวางตำแหน่งถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้านหน้าเบาะนั่ง เพิ่มความสะดวกในการเติมน้ำมัน โดยถังน้ำมันมีขนาดความจุ 13.2 ลิตร

ใต้เบาะนั่ง ปรับช่องเก็บของเอนกประสงค์ U-BOX เพิ่มปริมาตรจากเดิมอีก 1 ลิตร เป็น 22 ลิตร เก็บหมวกกันน็อกแบบเต็มใบได้ และเพิ่มจุดจ่ายไฟ 12 V แบบ USB-Type-C ไว้ชาร์จอุปกรณ์สมาร์ทโฟนได้

ช้าก่อน ทุกคน… เดี๋ยวนี้มันยุคดิจิทัล เทคโนโลยีที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคือ ระบบสั่งงานด้วยเสียง HSVCs (Honda Smartphone Voice Control System) ผ่านแอปพลิเคชันของฮอนด้า ซึ่งมีโหมดที่ตอบโจทย์คนใช้งานจักรยานยนต์ถึง 4 แบบ

1.ระบบนำทาง เราสามารถค้นหาสถานที่หรือจุดหมายปลายทาง ผ่านเสียงจากชุดเฮดเซตที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ระบบจะคอยแนะนำเส้นทางและบอกตำแหน่งด้วยเสียง และยังบันทึกสถานที่ที่ใช้งานบ่อยๆได้อีกด้วย

2.โทรออก-รับสาย แค่กดปุ่มควบคุมแบบมัลติฟังก์ชันที่แฮนด์เดิลบาร์ ก็ค้นหารายชื่อติดต่อด้วยเสียง ระบบจะโทรออกตามรายชื่อที่บันทึกไว้ และเมื่อมีสายเรียกเข้า เราก็สามารถเลือกรับสายจากตัวรถได้เช่นกัน

3.ส่งข้อความ ในขณะขี่รถ ถ้าเราไม่สะดวกรับสาย ก็เลือกส่งข้อความได้ โดยระบบจะส่งข้อความ SMS ตามเสียงที่เราพูดออกไป และยังตั้งข้อความด่วนที่ต้องการเลือกใช้ได้ 5 ข้อความ

4.ฟังเพลง ถูกใจสายเดินทางกันเลย โดยเลือกฟังเพลงโปรดในลิสต์เพลงของสมาร์ทโฟน

ทั้งหมดนี้ เข้าทางคนขี่รถแบบสุดๆ

ถึงเวลา มาลองรถกันดีกว่า TEST TEST…

เริ่มจากการได้ขึ้นค่อมรถแล้วหย่อนก้นไปที่เบาะนั่ง สัมผัสแรกคือ นั่งสบาย เบาะคนขี่ รองรับสรีระก้นได้ครอบคลุม ขอบเบาะด้านหน้า บริเวณข้างๆเบาะจะสโลปลงไม่กว้างเป็นเหลี่ยมสัน ทำให้การเหยียดขาลงไปที่พื้นทำได้อย่างสบาย คล่องตัว ประมาณว่าไม่ต้องแหกให้ขาถ่าง กว่าจะวางเท้าลงพื้นได้แต่ละครั้ง

การคอนโทรลรถ และบังคับเลี้ยว X-ADV เป็นรถที่ควบคุมง่าย ขี่เล่น ทดสอบแบบสลาลอมไปหลายรอบ บังคับเลี้ยว และพลิกรถง่ายมาก การที่แฮนด์รถเป็นแบบแฮนด์เดิลบาร์ ให้ความรู้สึกว่า บังคับง่าย คอนโทรลสะดวก ในขณะเดียวกันความยาวของแฮนด์ก็ไม่ได้กว้างไปกว่ารถทั่วๆไป ไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้งานในเมือง จากที่ได้ลองขี่เส้นเกษตร-นวมินทร์ และเลียบด่วนรามอินทรา ในช่วงที่มีการจราจรหนาแน่น ก็ยังสามารถพลิกรถซอกแซกได้คล่องตัว ถือว่าเป็นรถที่บาลานซ์ดี ขี่สนุก

มาถึงพละกำลัง เครื่องยนต์ 2 สูบ 750 ซีซี กับม้าที่พกมา 57.8 ตัว ที่ได้รับการพัฒนา องศาวาล์วใหม่ ขยายพอร์ตไอดีขึ้น 2 มม. สิ่งที่รู้สึกได้คือ อัตราเร่งมาไว เพียงแค่บิดก็พร้อมกระโจน เสียงเครื่องยนต์บุบบั่บๆ จากการวางตำแหน่งองศาของลูกสูบที่จุดระเบิดไม่พร้อมกัน ให้อารมณ์เหมือนขี่รถสปอร์ต ส่วนการปรับอัตราทดเกียร์ใหม่ ในช่วงเกียร์ 2-3 ช่วงเกียร์สั้น ทำให้เปลี่ยนเกียร์ 1 ไป 2 ไป 3 ไวหน่อย และพอรอบสูงขึ้น เรื่องของความเร็วปลายมาดีมาก

การใช้งานในทางดำ ขี่สนุก คล่องตัว อัตราเร่งเพียงแค่ใช้โหมด Standard ก็เร่งแซงได้ปรู๊ดปร๊าด พอต่อการใช้งาน ส่วนโหมด Sport แค่เปลี่ยนโหมดอารมณ์ก็เปลี่ยน ขี่สนุก รอบมาไว ตอบสนองรวดเร็ว แบบกดเป็นมา จะเร่งแซงทำได้หายห่วง

ส่วนโหมด Gravel ที่ใช้งานกับทางฝุ่น เครื่องยนต์ปรับพละกำลังให้สูงขึ้นเทียบเท่าโหมด Sport พร้อมตะลุย แค่กดคันเร่ง ล้อหลังตะกุยท้ายสาดเลย บ่งบอกถึงแรงขับที่ส่งลงพื้นเต็มๆ ต้องประคองกันดีๆ ไม่งั้นพาร่วงได้ง่ายๆ การคอนโทรลรถ แฮนด์เดิ้ลบาร์ช่วยทำให้ควบคุมคล่องตัว ด้านการยืนขี่ทำได้สะดวก แต่ถ้าอยากให้ลงตัวกว่านี้ แนะนำให้ซื้ออุปกรณ์พักเท้ามาติดตั้งเพิ่ม จะทำให้ได้ตำแหน่งการยืนที่เหมาะสมมากขึ้น

ระบบเกียร์ DCT ให้ความรู้สึกเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหล และเข้าเกียร์ได้เร็ว จังหวะรอยต่อของการเปลี่ยนเกียร์ยังมีให้เรารู้สึก ได้รับรู้อารมณ์ของการเปลี่ยนเกียร์ แต่โดยภาพรวมแล้วการทำงานของเกียร์ให้ความรู้สึกนุ่มนวลกว่ารุ่นก่อน ด้วยความเป็นเกียร์ DCT ทำให้เราเพลิดเพลินกับการขับขี่มากๆ

ส่วนใครที่มีภาพจำว่ารถเกียร์อัตโนมัติ จะขี่ไม่สนุก มีเอนจิ้นเบรกน้อย หรือชินกับรถคลัตช์ สับเกียร์เล่น ใช้เอนจิ้นเบรกหนัก บอกเลยว่า X-ADV มีให้สนุก เพียงแค่เลือกเกียร์แบบแมลนวล สนุกตามมือสั่งเลย นิ้วชี้ กับนิ้วโป้งซ้ายมือคอนโทรลตำแหน่งเกียร์ขึ้น-ลงได้ตามใจชอบ อยากลากรอบ อยากแช่ หรือเชนหนักๆ ให้เครื่องยนต์ดึงอื้อๆ ลองมาให้แล้ว ครบเครื่องสนุกดีนักแล

บทสรุป All New Honda X-ADV เป็นรถที่ครบเครื่อง ใช้งานได้เอนกประสงค์ตามที่ตั้งใจออกแบบให้พร้อมใช้ทุกสถานการณ์จริงๆ ขี่สนุกทั้งทางดำ และทางฝุ่น เทคโนโลยีที่อัดแน่นให้ผู้ใช้งานสะดวกสบาย คุ้มค่า ราคาค่าตัว

ข้อดี

ขี่สนุก อัตราเร่งดี คอนโทรลง่าย

เกียร์ DCT ขี่สบาย ถ้าอยากเร้าใจก็จัดไปที่เกียร์แมลนวล

คันเดียวพร้อมลุยทั้งทางดำ และทางฝุ่น เหมาะกับสภาพถนนเมืองไทย

ข้อแนะนำ

โช๊คค้ำเบาะน่าจะทำรองรับสองฝั่ง

เปลี่ยนโช๊คหลัง เพิ่มความสุดไปอีกขั้น

สำหรับใครที่กำลังมองหารถจักรยานยนต์ที่ใช้งานได้อย่างครบเครื่องเอนกประสงค์ ไม่ว่าจะใช้ในชีวิตประจำวัน ในเมือง นอกเมือง ทางดำ ทางฝุ่น ออกทริป ท่องเที่ยว เดินทางไกล ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์

All New Honda X-ADV มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทา (Pearl Deep Mud Grey), สีดำ (Graphite Black), สีแดง (Grand Prix Red) สนนราคาอยู่ที่ 425,000 บาท

ลองแวะไปสัมผัส X-ADV รุ่นใหม่นี้กันได้ที่ศูนย์ Honda BigWing ทั่วประเทศ (ค้นหาตัวแทนจำหน่าย ที่นี่) หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ไม่แน่นะ… อาจจะตกหลุมรักเลยก็ได้

MotoWish ขอขอบคุณ

บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด

149 ถ.รถรางเก่า ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 10130 โทร. (02) 757-6111

อ่านข่าว Reviews เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Honda เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish