เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง WADA (วาด้า) หรือองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ได้มีหนังสือแจ้งปลดแบนประเทศไทยออกจากรายชื่อผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎ โดยมีผลทันที ทำให้นักกีฬาไทยสามารถใช้ธงชาติ และประเทศไทยสามารถเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติได้

ตามที่ได้ทราบกันไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา วาด้าได้มีการแบนประเทศไทยเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎ ซึ่งตอนนั้นประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการออกกฎหมายที่ล่าช้าทำให้ไม่ทันตามระยะเวลาที่กำหนด ทำให้ประเทศไทยโดน ลงโทษแบนเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งทำให้ไม่สามารถเสนอตัวเป็นเจ้าภาพกีฬาระดับนานาชาติได้ ตลอดจนถูกห้ามใช้ธงชาติไทยและเพลงชาติไทยในทัวร์นาเมนท์ระดับนานาชาติ รวมถึงห้ามบุคคลผู้ที่มีตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารสหพันธ์กีฬาเข้าร่วมประชุมหรือโหวตลงมติในสหพันธ์นั้นๆ

หลังจากนั้นคณะรัฐมนตรีก็ได้มีการออกพระราชกำหนดออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากการออกเป็นพระราชบัญญัติมีขึ้นตอนที่ยาวนาน ซึ่งพระราชกำหนดเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีที่สามารถทำได้เลย

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 65 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยข่าวดีว่าทางวาด้าได้ส่งหนังสือแจ้งว่าประเทศไทยได้รับการปลดออกจากรายชื่อผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎของวาด้าเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ได้มีการปรับแก้รายละเอียด พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ.2555 พ.ศ.2564 ให้กับสอดคล้องกับข้อกำหนดของทางวาด้าแล้ว

“WADA มีหนังสือลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 แจ้งว่า ตามที่คณะกรรมการบริหารของ WADA ได้ประกาศเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 ว่า Doping Control Agency of Thailand (DCAT) ไม่ปฏิบัติตาม WADA Code นั้น บัดนี้ DCAT ได้ดำเนินการครบถ้วนในการปฏิบัติตามข้อกำหนดแล้ว กล่าวคือ ได้ทำให้ระบบการต่อต้านสารต้องห้ามมีความสอดคล้องกับ WADA 2021 แล้ว”

“WADA จึงมีความยินดีที่จะแจ้งว่า โดยคำแนะนำของคณะกรรมการพิจารณาทบทวนการปฏิบัติตามกฎของ WADA ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 คณะกรรมการบริหารของ WADA จึงได้ตัดสินโดยการเวียนให้มีการลงคะแนน ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 และมีมติให้ DCAT ได้รับการปลดออกจากรายชื่อผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎของ WADA โดยมีผลทันที นับเป็นข่าวดีแก่วงการกีฬาของประเทศไทยอย่างยิ่ง” ดร.ก้องศักด เผย

Source Cr.: Main Stand

อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish