แนวคิดที่ยามาฮ่ากำลังจะสร้างรถยนต์สปอร์ตสุดหรูนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ย้อนกลับไปในปี 2013 ภายในงาน Tokyo Motorshow พวกเขาได้เปิดตัวรถยนต์สปอร์ตที่มีชื่อว่า “Motiv” ต่อจากนั้นปี 2015 ก็ได้เอารถต้นแบบตัวใหม่มาอวดโฉมนั่นก็คือ “Sport Ride” ไม่เพียงแค่นั้นในปี 2017 ก็ได้เปิดตัวต้นแบบรถกระบะหรู “Cross Hub” นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ายามาฮ่าพยายามอย่างมากที่จะสร้างรถยนต์เป็นของตัวเอง

กลับมาที่สปอร์ตคาร์กันสักนิด ระหว่าง Motiv กับ Sport Ride นั้นไม่มีความแตกต่างกันมากโดยรุ่น Sport Ride เป็นการปัดฝุ่นจากรุ่น Motiv พัฒนามาติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ 3 สูบ ตัวรถมีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 750 กิโลกรัมเท่านั้น เหมือนว่ามันจะไปได้ดี แต่สุดท้ายทุกอย่างก็เงียบลงไป

หากพูดถึงความเชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์ยามาฮ่าถือว่าไม่ธรรมดา เพราะมรดกตกทอดที่ได้ทำงานร่วมกับค่ายรถต่างๆ มากมายยังคงมีอยู่ อย่างเช่นการทำข้อตกลงกับฟอร์ดช่วงกลางทศวรรษที่ 80 เพื่อพัฒนาและผลิตเครื่องยนต์ Taurus SHO V6 จากนั้นช่วงต้นปี 2000 ยามาฮ่าก็ได้จับมือกับโตโยต้าพัฒนาเครื่องยนต์สุดยอดซูเปอร์คาร์ Lexus LFA ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 4.8 ลิตร V10 พละกำลัง 552 แรงม้า และยังแตกแขนงไปยังยานพาหนะอื่นๆ อย่างเช่น เรือ เป็นต้น

นอกจากนี้ในสิทธิบัตรเวอร์ชั่นล่าสุดของทางยามาฮ่าที่เผยแพร่โดยสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของสหภาพยุโรป ได้เปิดเผยให้เห็นว่ายามาฮ่านั้นกำลังมีโปรเจคพัฒนารถยนต์สไตล์สปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า แต่นั่นมันก็เป็นเมื่อปี 2018

เรื่องที่น่าเสียดายเกี่ยวกับสิทธิบัตรรถสปอร์ตซึ่งคาดว่าจะเป็นการขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้านั้น ได้ถูกเก็บเข้าลิ้นชักไปอีกครั้งจากคำกล่าวของตัวแทนยามาฮ่า “นาโอโต โฮริเอะ” ที่ได้เปิดเผยกับนิตรสาร Autocar ของสหราชอาณาจักรในเดือนตุลาคมปี 2019 ว่า “รถยนต์ไม่ได้อยู่ในแผนระยะยาวของเราอีกต่อไป”

ดังนั้นหากมีข่าวลือของยามาฮ่าที่มีแนวคิดในการสร้างรถยนต์ภายใต้แบรนด์ของตัวเองมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะตามที่เคยบอกไปแล้วข้างต้นว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาพยายามทำมัน

Source Cr.: Autocar, Rideapart

อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Yamaha  เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish