ล่าสุดกฎหมายใหม่ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว อนุญาตให้รถ “บิ๊กไบค์” สามารถวิ่งบนถนนหลวงได้ความเร็วไม่เกิน 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนรถจักรยานยนต์ธรรมดาวิ่งได้ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ได้เผยแพร่ กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงชนบทที่กำหนด พ.ศ. 2564 ซึ่งรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเหล่าไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบในการขับขี่รถบิ๊กไบค์อยู่ในข้อ 3 (3) ที่กำหนดว่า “รถจักรยานยนต์ ให้ใช้ความเร็วไม่เกินแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง เว้นแต่รถจักรยานยนต์ ที่มีกำลังเครื่องยนต์ตั้งแต่สามสิบห้ากิโลวัตต์ขึ้นไปหรือมีขนาดความจุของกระบอกสูบรวมกันตั้งแต่สี่ร้อยลูกบาศก์เชนติเมตรขึ้นไป ให้ใช้ความเร็วไม่เกินหนึ่งร้อยสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง”

จากกฎกระทรวงข้อนี้แปลความได้ง่ายๆ ว่า

1. รถจักรยานยนต์ปกติ ขี่ได้ที่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
2. รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ (พละกำลัง 35 กิโลวัตต์ หรือ 46.9 แรงม้า หรือ ความจุกระบอกสูบ 400 ซีซี) สามารถขี่ได้ที่ความเร็วไม่เกิน 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แต่มีข้อสังเกตอยู่ในกฎกระทรวง ข้อ 2 กำหนดว่า “บังคับใช้กับทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงชนบทที่มีทางเดินรถ ซึ่งได้แบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่สองช่องเดินรถขึ้นไป มีเกาะกลางถนนแบบกำแพง และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน ตามที่ผู้แนวการทางหลวงประกาศกำหนด”

จากข้อนี้เองอาจจะต้องรอทางผู้ที่มีตำแหน่ง “ผู้อำนวยการทางหลวง” ซึ่งก็คือ อธิบดีกรมทางหลวง และอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ประกาศออกมาก่อนว่าถนนเส้นใดสามารถใช้ความเร็วที่กำหนดใหม่ตามกฎกระทรวงนี้ได้ ซึ่งต้องเป็นเส้นทางวันเวย์ เกาะกลางจะต้องเป็นแบบกำแพง และจุดกลับรถต้องเป็นแบบสะพานกลับรถ

สำหรับรถชนิดอื่นๆ ใช้ตามเร็วตามนี้

• รถยนต์ ไม่เกิน 120 กม./ชม.
• วิ่งเลนขวา ไม่ต่ำกวา 100 กม./ชม.
• รถบรรทุกโดยสาร เกิน 15 คน ไม่เกิน 90 กม./ชม.
• รถโดยสาร 7-15 คน ไม่เกิน 100 กม./ชม.
• รถชักจูง รถยนต์สี่ล้อเล็ก ไม่เกิน 65 กม./ชม.
• รถโรงเรียน – รับส่งนักเรียน ไม่เกิน 80 กม./ชม.

ราชกิจจานุเบกษาฉบับเต็มโหลดที่นี่

Source Cr. : ราชกิจจานุเบกษา

อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish