ทำอย่างไรถึงจะไม่โดนจับ !!! ข้อหาขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย !!!
ปัญหาที่สั่งสมมาเนิ่นนานและไม่ได้รับการแก้ไขอย่างยุติธรรม ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก ของกฎหมายที่เก่าล่าสมัยตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 ณ ปัจจุบัน พ.ศ.2559 ซึ่งข้อกฎหมายอายุ 37 ปี ที่ไม่ได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับ “ ปริมาณรถโดยรวม ” และ “ ซีซี ” ของรถมอเตอร์ไซค์และบิ๊กไบค์ที่เพิ่มมากขึ้นนั้น
การตั้งด่านตรวจจราจรหากคุณตำรวจที่มีจรรยาบรรณปกติทั่วไป ประชาชนคงจะไม่มีปัญหาอะไรกับการดำเนินการเรียกตรวจสอบเรื่องต่างๆ แต่การตั้งด่านในลักษณะบริเวณ “ หน้าป้ายรถเมล์ ” หรือ “ ทางโค้ง ” นั้นหาใช่การกระทำที่สมควรไม่ เพราะเป็นการตั้งด่านที่ไม่ได้คำนึงถึงความถูกต้อง และความปลอดภัยกับประชาชนผู้ใช้ถนนหนทางแต่อย่างใด
ทีนี้เราลองมาดูในข้อกฎหมายกับ “ ชีวิตการใช้รถ ” ประจำวันของเราๆชาวมอเตอร์ไซค์กันว่าทำไมถึงต้องโดนแจ้งข้อหา “ ไม่วิ่งชิดขอบทางด้านซ้าย ” เวลาโดนคุณตำรวจเรียกตรวจแล้วแจ้งข้อกล่าวหานี้ เราสามารถจะใช้ข้อกฎหมายตามมาตราที่ 33 (ดูรูปกฎหมายประกอบ) ข้อที่ 1 โต้แย้งได้ว่า หากด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดจราจร เช่น รถโดยสารต่างๆที่จอดแช่ หรือ จอดรับผู้โดยสาร ก็ถือเป็นสิ่งกีดขวาง ฉะนั้นเรามีสิทธิตามข้อกฎหมายที่จะสามารถแซงได้และไม่โดนแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว
ส่วนมาตราที่ 34 นี้ ก็เป็นมาตราข้อกฎหมายที่ต่อเนื่องในการกระทำกับมาตราที่ 33 และ 35 ซึ่งรถที่ถูกบังคับให้ใช้ช่องเดินรถทางด้านซ้ายนั้นมีแค่ จักรยาน รถเข็น สามล้อ สิบล้อ รถเมล์ รถโดยสารต่างๆ รถพ่วง รถมอเตอร์ไซค์หรือจักรยานยนต์ ถามจริงๆเถอะในบรรดารถที่กล่าวมารถอะไรวิ่งเร็วที่สุด….
ในเมื่อข้อกฎหมายกำหนดข้อยกเว้นให้กับรถที่วิ่งด้วยความเร็วมากกว่าแซงรถที่ช้ากว่า ในช่องเดินรถทางด้านซ้ายได้ แล้วทำไมมอเตอร์ไซค์หรือรถบิ๊กไบค์จะแซงรถที่ช้าแล้วเข้าช่องซ้ายเหมือนเดิมไม่ได้ !!!
อุปสรรคของช่องทางเดินรถด้านซ้ายสุด ที่ไม่เคยพัฒนาและได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
- รถแท็กซี่ รถสามล้อ รถสองแถว รถตู้ จอดแช่ กินพื้นที่ไปหนึ่งเลน รถจอดซื้อของ และการวางสิ่งกีดขวางเพื่อบ่งบอกความเป็นเจ้าของพื้นที่
- ฝาท่อโลว์เทค ที่ต่างระดับกับพื้นถนน ซึ่งนับจำนวนครั้งในการเปิดใช้งานได้ ยังไม่นับรวมฝาท่อทะลุทำให้ผู้ใช้ถนนเกิดอุบัติเหตุจากความมักง่ายในการตรวจสอบและปรับปรุงอีก และอื่นๆอีกมากมาย
หากคุณขี้เกียจโต้เถียงกับคุณตำรวจแล้วทำบางสิ่งที่เคยๆกระทำกันมา อันนั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีที่ถูกต้องแก่สังคม….ผิดก็ต้องยอมรับ ถูกก็พูดคุยอธิบายกันไปอย่าใช้ “อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล” ยังไงก็คนไทยเหมือนกัน
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการใช้เหตุผลดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ รอดพ้นจากข้อหาที่ไม่เป็นธรรม….
Image Cr.: voicetv , tlcthai
อ่านข่าว News Talk เพิ่มเติมได้ที่นี่
เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่
Website : motowish.com
Facebook : facebook.com/motowish