การขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มีสมรรถนะสูงอย่างบิ๊กไบค์ ไม่ว่าจะเป็นในสนามแข่งขัน หรือนอกสนามแข่งขัน สิ่งจำเป็นสำหรับเหล่าไบค์เกอร์เพื่อป้องกันการบาดเจ็บเวลาเกิดอุบัติเหตุก็คือชุดป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นชุดแข่ง หรือชุดสำหรับใส่ขับขี่บนท้องถนน แต่รู้หรือไม่ว่าชุดป้องกันเหล่านี้มีที่มาอย่างไร และวิวัฒนาการเป็นอย่างไร วันนี้มาหาคำตอบกัน

เรื่องราวต้องย้อนกลับไปช่วงศตวรรษที่ 18-19 รถจ้กรยานยนต์ได้ถูกคิดค้นขึ้นมา แน่นอนว่าเมื่อยานพาหนะเริ่มมีความเร็วขึ้น รวมถึงผู้คนมักจะเอามาใช้แข่งขันกัน การหาอุปกรณ์ป้องกันเวลาเกิดอุบัติเหตุก็ย่อมมีการคิดค้นตามมาด้วย ในช่วงแรกชุดป้องกันมีการใช้เพียงแค่รองเท้าบูทแบบที่คนงานทั่วไปใช้กัน ส่วนเสื้อผ้าก็เป็นเสื้อผ้าประจำวันที่ใส่กัน รวมถึงหมวกแก๊ปธรรมดาเอาไว้ใช้แค่เก็บผมไม่ให้ปลิวขณะขี่เท่านั้น

จนมีการใช้รถจักรยานยนต์แข่งขันมากขึ้นในอเมริกา และยุโรป เช่นรายการ Isle of Man TT ปี 1907 ที่แข่งขันกันบนถนนจริงๆ มีภาพที่วีดีโอที่บันทึกได้ในปี 1908 พบว่านักแข่งนั้นได้ใส่ชุดป้องกันเหมือนกับชุดนักบินช่วงยุคนั้นนั่นก็คือสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังรองเท้าบูทหนังสวมถุงมือหมวกแบบครึ่งใบและแว่นตานักบิน

สำหรับวัสดุที่ใช้ผลิตหมวกช่วงแรกใช้เป็นผ้าใบธรรมดา พอมาช่วงกลางยุค 1950s หมวกได้รับการอัปเกรดเป็นไฟเบอร์กลาส ส่วนชุดแข่งได้มีนักแข่งที่ชื่อว่า “เจฟฟ์ ดุ๊ก” เริ่มคิดค้นวิธีการตัดเย็บชุดแข่งโดยได้ร่วมมือกับช่างตัดเสื้อในท้องถิ่นสร้างชุดแข่งขึ้นมา ซึ่งมีการทดลองกันแบบจริงจังตั้งแต่เรื่องของ อากาศพลศาสตร์ โครงสร้างของเสื้อส่วนไหนของชุดจะต้องมีความหนาเป็นพิเศษเพื่อรองรับอุบัติเหตุ ลดอาการบาดเจ็บของผู้สวมใส่

มาถึงช่วงยุคปลาย 1960s หมวกกันน็อคได้รับการอัปเกรดเป็นแบบเต็มใบ มาจนถึงช่วงปลายปี 1970s ชุดแข่งได้มีการพัฒนาอีกครั้ง นั่นก็คือการป้องกันส่วนหลังของนักแข่ง เรียกว่า แผ่นรองคอมโพสิต ประกอบด้วยวัสดุด้านนอกที่แข็ง ทำจากเทอร์โมพลาสติกหรือไฟเบอร์เสริมแรง ด้านในประกบหลังเป็นแผ่นนิ้ม ทำหน้าที่กระจายน้ำหนักจากแรงกระแทก หลักการทำงานคล้ายกับหมวกกันน็อคที่ดูดซับแรงกระแทกแบบสองชั้น

ช่วงต้นปี 1980s ช่วงนี้นักแข่งหลายคนเริ่มที่จะเอนเข่าลงไปที่พื้น ทำให้ชุดแข่งขันนั้นเกิดความเสียหาย จากเดิมที่ใช้เทปกาว ยังไม่สามารถตอบโจทย์นักแข่งได้ เลยลองใช้ไม้เป็นเซ็นเซอร์เข่า จนวิวัฒนาการกลายมาเป็นเซ็นเซอร์เข่าที่ใช้โพลีพรอโพลีนแบบปัจจุบัน ไม่เพียงแค่นั้นจากเซ็นเซอร์เข่าก็พัฒนามาเป็นเซ็นเซอร์ศอก เนื่องจากนักแข่ง MotoGP ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่เข่าเท่านั้นที่ถูไปกับพื้น แต่การเข้าโค้งของนักแข่ง MotoGP มีการใช้ซอกสัมผัสกับพื้นแล้ว จนได้มีการพัฒนามาเป็นเซ็นเซอร์ศอกในที่สุด

ไม่เพียงแค่นั้นหลักการอากาศพลศาสตร์ช่วงนี้ก็ได้มีการพัฒนาอีกครั้ง นั่นก็คือ Aero Hump (นูนๆ บนหลังชุดแข่ง) เจ้าตัวนี้เองจะเข้ามาช่วยในเรื่องของอากาศพลศาสตร์ ปัจจุบันมีการใช้ Aero Hump ให้เป็นประโยชน์มากขึ้น โดยใช้สำหรับเป็นช่องเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูล เก็บน้ำสำหรับนักแข่ง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับถุงลมนิรภัย รวมไปถึงท่อระบายความร้อน

การพัฒนาถุงลมนิรภัยในชุดแข่ง ต้องเริ่มต้นจากการยื่นจดสิทธิบัตรในประเทศฮังการีเมื่อปี 1976 แต่ก็ยังไม่มีการพัฒนาอะไรไปมาก จนกระทั่งปี 1998 ได้มีการเปิดตัวเสื้อกั๊กถุงลมนิรภัยตัวแรก หลักการทำงานก็ง่ายๆ เป็นเสื้อกั๊กสวมใส่ธรรมดา มีสลิงเชื่อมกับรถจักรยานยนต์เวลาขี่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้ขับขี่ตกลงจากรถ สายสลิงก็จะทำการดึงสลักปลดล็อคถัง CO2 ฉีดไปยังถุงลมนิรภัยทำให้พองขึ้นในจุดสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าอก ไหล่ หลัง เป็นต้น จนในที่สุดมีการพัฒนามาเป็นการใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับต่างๆ ซึ่งทำได้ดีและไวกว่าการใช้สลิง

สำหรับรองเท้าบูทมีการพัฒนามาเรื่อยๆ ช่วงแรกเป็นการใช้รองเท้าบูทแบบยาวแบบธรรมดาคนงานทั่วไปใช้ จนพัฒนามาถึงการใช้วัสดุรองรับแรงกระแทก รวมถึงแบ่งชั้นนอกชั้นในของรองเท้า และเมื่อต้นปี 1990s รองเท้าบูทได้รับการอัปเกรดอีกครั้งด้วยการมีแผ่นเหล็กป้องกันตรงปลายเท้าเวลานักแข่งลากเท้าลงมาตรงพื้นไม่เกิดการบาดเจ็บบริเวณนิ้วเท้า

หากพูดถึงบริษัทที่ผลิตและคิดค้นนวัฒกรรมชุดแข่งมาอย่างยาวนานเป็นใครไม่ได้นั่นก็คือ Alpinestars ก่อตั้งเมื่อปี 1963 แรกเริ่มผลิตรองเท้าเดินป่าและสกี จนหันมาโฟกัสที่รองเท้าสำหรับแข่งขันมอเตอร์ครอสรวมไปถึงรองเท้าแข่งรถทั่วไป จากรองเท้าก็พัฒนามาเป็นชุดแข่งแบบครบวงจร ตั้งแต่หัวจรดเท้า รวมไปถึงชุดป้องกันสำหรับไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบการขับขี่บนท้องถนนเพียงอย่างเดียวได้ทั้งความปลอดภัยและความเท่ไปในตัว

นอกจากนี้ Alpinestars ยังเป็นผู้นำในเรื่องเทคโนโลยีถุงลมนิรภัย ในปี 2011 ได้เกิดเทคโนโลยีที่เรียกว่า Tech Air Race System ขึ้น เป็นระบบถุงลมนิรภัยอิเล็กทรอนิกส์นำมาใช้ในการแข่งขัน MotoGP และ WorldSBK ในปัจจุบัน ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับนักแข่งเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่นั้น Alpinestars ก็ไม่หยุดพัฒนาจนนำออกมาเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับคนทั่วไปได้เข้าถึงอีกด้วย

ใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์และชุดป้องกันที่มาพร้อมเทคโนโลยีมาตรฐานสากล Alpinestars มีทุกสิ่งให้เลือกสรรทั้งสายถนนและสายฝุ่น เช่น

• หมวกกันน็อค ยอดนิยมของสายฝุ่นอย่างรุ่น SM5 ACTION 2 มาพร้อมคุณสมบัติน้ำหนักเบาทำจากเทอร์โมพลาสติก

• กางเกงยีนส์ สำหรับไบค์เกอร์ที่ชอบไลฟ์สไตล์แบบธรรมดาแต่แฝงด้วยความปลอดภัย Alpinestars ก็ได้ออกแบบกางเกงยีนส์สำหรับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยการเสริมความแข็งแรงปกป้องบริเวณหัวเข่าและสะโพก

• เสื้อแจ็คเก็ต การใช้งานทั่วไปบนท้องถนนไม่ต้องถึงกับต้องใช้ชุดแข่ง เพราะมันไม่สะดวกสบาย Alpinestars เลยได้นำเอาเทคโนโลยีต่างๆ ในชุดแข่งมาใส่กับเสื้อแจ็คเก็ต นอกจากความเท่แล้วความปลอดภัยก็เป็นอีกสิ่งที่เหล่าไบค์เกอร์จะได้รับ ทั้งนี้การเลือกใช้งานควรเลือกให้เหมาะสม เช่น งานทัวร์ริ่งจะมีแจ็คเก็ตที่ออกแบบมาโดยเฉพาะอย่างรุ่น Andes Air Drystar อากาศไหลลื่นขี่ได้ทั้งอากาศร้อนและอากาศเย็น ส่วนใครขับขี่บนถนนธรรมดาก็มีแจ็คเก็ตหนังรุ่น Dyno Leather ใช้หนังแบบพรีเมี่ยมในการผลิต

• รองเท้า สายถนนทั่วไป Alpinestars ก็ได้ออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นแบบรองเท้าผ้าใบดูดีแต่ก็อัดแน่นไปด้วยการปกป้องเท้าของผู้ขับขี่ หรือจะเป็นแบบหุ้มข้อที่มีให้เลือกมากมายหลายแบบ สวมใส่ง่ายและปกป้องข้อเท้าได้เป็นอย่างดี เช่นรุ่น Chrome Drystar มาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำ ส่วนสายฝุ่น Alpinestars ไม่ทำให้ผิดหวังมีให้เลือกใช้งานตั้งแต่งานวิบาก ไปจนถึงงานเอ็นดูโร่ ตั้งแต่รุ่น Tech 3 ยัน Tech 10

• ถุงมือ เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานเช่นเดียวกัน เพราะว่า Alpinestars มีถุงมือหลายรุ่นมาก แต่ละรุ่นได้รับการออกแบบให้ตรงกับสไตล์การขับขี่ หากขี่บนถนนทั่วไปก็มีถังมือผ้าคุณภาพ Reef Gloves โครงสร้างผ้าแบบยืดหยุ่นเพื่อน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดี บริเวณฝ่ามือทำจากหนังกลับสังเคราะห์เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการเสียดสี หากเป็นสายวิบาก ก็แยกออกมาเป็นรุ่น Techstar Gloves มาพร้อมโครงสร้างที่ยืดหยุ่นและพอดีตัวเพื่อการควบคุมที่ดีขึ้นพร้อมเสริมนิ้วเพื่อเพิ่มอิสระในการเคลื่อนไหว

แล้วเหล่าไบค์เกอร์รู้กันหรือยังว่าในประเทศไทยมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Alpinestars กันแล้วนะ ใครที่กำลังมองหาชุดแข่งที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำ หรือจะเป็นชุดสำหรับใส่ขับขี่บนท้องถนนที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เว็บไซต์ Alpinestars Thailand หรือติดตามความเคลื่อนไหวและโปรโมชั่นต่างๆ ได้ที่  Facebook : Alpinestars Thailand รับรองได้เลยว่าครบจบในที่เดียว

อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish