วิวัฒนาการ “หมวกกันน็อค” ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พัฒนาไปแค่ไหน?

หมวกกันน็อครถมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยระดับสูง ผลิตจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและทนทานต่อแรงกระแทก ช่วยเซฟชีวิตของไบค์เกอร์เวลาเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี แต่สงสัยหรือไม่หมวกกันน็อคจากอดีตจนถึงปัจจุบันพัฒนาไปมากแค่ไหน?

จุดเริ่มต้น
หมวกกันน็อครถมอเตอร์ไซค์ ถือกำเนิดขึ้นในปี 1914 ตามบันทึกรถมอเตอร์ไซค์คันแรกถูกสร้างขึ้นในปี 1867 เป็นการเอาเครื่องยนต์ไอน้ำขนาดเล็กมาติดตั้งกับจักรยานไม้ ต่อมาปี 1885 รถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สันดาปก็เกิดขึ้น เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ได้รับความนิยมประกอบกับมีความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การคิดค้นอุปกรณ์ที่จะมาป้องกันศีรษะก็เกิดขึ้น ปี 1914 นักฟิสิก์ชางอังกฤษชื่อว่า “อีริค การ์ดเนอร์” เริ่มพบผู้ได้รับบาดเจ็บจากรถมอเตอร์ไซค์จำนวนมาก จึงเกิดความคิดพัฒนาหมวกกันน็อคเพื่อคลุมศีรษะขึ้น
ช่วงปีแรกหมวกกันน็อคทำมาจากหนัง ทำหน้าที่คลุมหัวรวมถึงช่วยให้ความอบอุ่นจากอากาศที่หนาวเย็น แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไหร่นัก รวมไปถึงการแข่งขันที่เก่าแก่อย่าง Isle of Man TT ก็ได้บรรจุกฎหมวกกันน็อคบังคับใช้เป็นครั้งแรกในปี 1914 เช่นเดียวกัน แต่การแข่งขันอื่นๆ ยังไม่ได้รับการตอบรับเท่าไหร่นัก

ความแพร่หลายครั้งแรก
ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี 1935 นายทหารที่เป็นวีรบุรุษของอังกฤษ “ที.อี. ลอว์เรนซ์” เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ โดยแพทย์ที่ทำการรักษาสาเหตุการเสียชีวิตพบว่าอาการบาดเจ็บเกิดจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก เป็นความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการไม่ใส่อุปกรณ์ป้องกันศีรษะ จนได้มีการศึกษาวิจัยหมวกกันน็อค และถึงปี 1941 กองทัพอังกฤษก็ได้ออกระเบียบให้บุคลากรในกองทัพอย่าง ผู้สงสาร ผู้ขับขี่ ต้องสวมหมวกกันน็อค ลากยาวไปจนสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารที่ทำหน้าที่ขับขี่จะต้องสวมหมวกกันน็อคในสนามรบอีกด้วย วัสดุที่ใช้ผลิตหมวกกันน็อคช่วงนั้นทำจากยางและไม้ก๊อก
ไม่กี่ปีต่อมาปี 1953 ได้มีนักวิจัยกองทัพอากาศของประเทศสหรัฐอเมริกาได้จดสิทธิบัตรหมวกกันน็อครุ่นแรกขึ้น มีโครงสร้างที่ทันสมัยจากเดิม โดยมีเปลือกนอกที่แข็งและมีการบุด้านในให้นุ่ม

กำเนิดแบรนด์หมวกกันน็อค
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 หมวกกันน็อคเริ่มได้รับความสนใจมากกว่าเดิม จะได้เกิดแนวคิดผลิตหมวกกันน็อคขาย หนึ่งในแบรนด์ที่บุกเบิกในยุโรปคือ AGV จะอิตาลี ก่อตั้งขึ้นในปี 1947 เป็นบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ จนปี 1954 ได้ถือกำเนิดหมวกกันน็อครุ่นแรกที่ทำจากไฟเบอร์ ถือว่าเป็นวิวัฒนาการครั้งใหญ่ เป็นหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ แตกต่างจากหมวกในสมัยนั้นที่เป็นแบบครึ่งใบ ช่วงเวลาเดียวกันในอเมริกาก็ได้ถือกำเนิดแบรนด์ Bell ขึ้นมา รวมไปถึง Arai จากญี่ปุ่น

การบังคับใช้
ความนิยมของรถมอเตอร์ไซค์ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่มีใครคาดคิด นำมาสู่ปัญหาการเสียชีวิตจากการใช้รถมอเตอร์ไซค์ ปี 1957 จึงได้เกิดองค์กรไม่แสวงหากำไรมูลนิธิ Snell Memorial เป็นหน่วยงานกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยของรถมอเตอร์ไซค์ในสหรัฐอเมริกา จนกลายมาเป็นมาตรฐานสำหรับหมวกกันน็อคในปัจจุบัน
แม้ว่าอเมริกาจะเป็นผู้นำด้านความปลอดภายของหมวกกันน็อค แต่ประเทศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด คือ ประเทศออสเตรเลีย ได้มีการออกกฎหมายบังคับให้การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์จะต้องสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งในปี 1961 ส่วนทางด้านสหราชอาณาจักรที่เป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มคิดค้นหมวกกันน็อคบังคับใช้ในปี 1973

หมวกกันน็อคสำหรับการแข่งขัน
จากเดิมการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์การใช้หมวกกันน็อคยังเป็นแบบหนังครึ่งใบเหมือนกับหมวกนักบิน จนมาถึงหมวกแบบทหาร ความปลอดภัยในการแข่งขันจึงได้มีการวิวัฒนาการมาเป็นแบบหมวกกันน็อคแบบเต็มใบเริ่มต้นจากแบรนด์ AGV ที่ได้คิดค้นหมวกกันน็อคสำหรับการแข่งขันขึ้นมาเป็นแบบเต็มใบใช้ตั้งแต่ปี 1967 มาจนถึงปัจจุบัน ช่วงเดียวกันนี้เองหมวกกันน็อครถวิบากได้ถือกำเนิดขึ้นเหมือนกัน แต่ยังใช้หมวกกันน็อคทั่วไปไม่ใช่แบบเต็มใบ ใส่แว่นตาเพื่อบังหินและดินที่จะกระเด็นใส่ตา จนในที่สุดก็ได้มีการพัฒนามาเป็นแบบเต็มใบแบบปัจจุบัน
วัสดุที่ใช้ช่วงแรกจะเป็นไฟเบอร์ จนช่วงยุค 80 ได้มีการพัฒนาใช้วัสดุผสมพิเศษอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ผสมกับเคฟลาร์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักแข่ง แต่หมวกไฟเบอร์ก็ยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้ได้เลือกใช้อยู่
จากการพัฒนาด้านความปลอดภัยที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องจากในการแข่งขันและบนถนน ทำให้มีผู้ผลิตหมวกกันน็อคเกิดขึ้นมากมายหลายสิบแบรนด์ แต่ละแบรนด์ก็ได้มีการทำตลาดที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นตลาดท้องถนน ตลาดวิบาก หรือตลาดบิ๊กไบค์ แต่ละตลาดก็จะมีมาตรฐานความปลอดภัยที่แตกต่างกันออกไป เช่นมาตรฐาน ECE 22.05 ของยุโรป หรือมาตรฐาน DOT ของอเมริกา หรือ SHARP ของอังกฤษ หรือ มอก. ของไทย เป็นต้น

หากพูดถึงหมวกกันน็อคแบบเต็มใบในปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อ หนึ่งในยี่ห้อที่น่าจับตามองมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ Alpinestars แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับชาวไบค์เกอร์ที่มีให้เลือกแบบครบวงจร รวมไปถึงหมวกกันน็อควิบากที่มีให้เลือกมากที่สุด ก็ได้พัฒนาหมวกกันน็อคแบบเต็มใบแบบ Racing นั่นก็คือ Alpinestars Supertech R10
Alpinestars Supertech R10 เป็นหมวกันน็อคที่ขนเอาสุดยอดเทคโนโลยีที่ดีที่สุดบนโลก น้ำหนักเบา มีความทนทาน และยังมอบความสะดวกสบายเมื่อสวมใส่อีกด้วย วัสดุภายนอกทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์โครงสร้างคอมโพสิตหลายชั้นเชื่อมกันด้วยเรซินอีพอกซีระดับสูงเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ไล่เลเยอร์วัสดุแต่ละชั้นมีตั้งแต่ Aramid Fiber, Glass Fiber / Nylon Fiber, UD Carbon และ 3K Carbon ไล่เรียงจากด้านในจนถึงด้านนอกตามลำดับ

ด้านแอโร่ไดนามิก ออกแบบในอุโมงค์ลมลดแรงต้าได้ถึง 4.54% มุมมองการมองเห็นกว้างมาก 220 องศาที่แนวนอน ส่วนแนวตั้ง 57 องศา สปอยเลอร์มีการติดตั้งแบบสามารถแยกออกจากตัวหมวกได้เวลาเกิดอุบัติเหตุจะกระเด็นออก มีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบมาตรฐานและแบบ Race ให้เอฟเฟกต์ของแอโร่ไดนามิกแตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีปีกด้านข้างเพื่อรองรับความเสถียรอีกด้วย
โฟมภายในหมวกเป็นแบบ EPS มีความหนาแน่นหลายชั้นเพื่อให้สามารถดูดซับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่เพียงแค่นั้นยังมีเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า A-Head ปรับภายในให้มีความพอดีกับหัวผู้สวมใส่มากที่สุด อีกทั้งชิลของหมวกกันน็อคก็ยังมีตัวล็อกป้องกันการเปิดเวลาเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา

โครงสร้างชิลด์หน้า รองรับการติดตั้ง Pinlock 120XLT และ Max Vision นอกจากนี้ยังมีหมุดสำหรับ Tear off อีกด้วย ชิลด์ผ่านมาตรฐาน ECE 2206 Optical Class 1 นอกจากนี้ภายในยังได้รับการติดตั้งคันโยกล็อคแบบโลหะเพื่อป้องกันไม่ให้ชิลด์หลุดออกมาโดยไม่ตั้งใจเมื่อเกิดแรงกระแทก และมีระบบปลดเร็วสามารถเปลี่ยนชิลก์ได้แบบไม่ต้องใช้เครื่องมือช่วยอีกด้วย
ระบบระบายอากาศของ Alpinestars Supertech R10 มีช่องระบายอากาศทั้งหมด 11 ช่อง ตั้งแต่บริเวณคาง, บริเวณด้านบน และบริเวณสปอยเลอร์หลัง

รู้หรือยัง หมวก Alpinestars Supertech R10 มีกำหนดนำเเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว โดยจะมีการเปิดตัวภายในงานช่วงการแข่งขัน MotoGP สนามประเทศไทยระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2568 ที่บูธ Alpinestars นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมกระทบไหล่นักแข่ง MotoGP อีกด้วย
ใครที่กำลังมองหาชุดแข่งที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำ หรือจะเป็นชุดสำหรับใส่ขับขี่บนท้องถนนที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เว็บไซต์ Alpinestars Thailand หรือติดตามความเคลื่อนไหวและโปรโมชั่นต่างๆ ได้ที่ Facebook : Alpinestars Thailand รับรองได้เลยว่าครบจบในที่เดียว
อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่
อ่านข่าว General Tips เพิ่มที่นี่
เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่
Website : motowish.com
Facebook : facebook.com/motowish