Damon ทุ่มสุดตัว ดันสปอร์ตไบค์ไฟฟ้า “Hypersport” ยืนหนึ่งในวงการ
Damon Motorcycles ในแคนาดาเริ้มต้นสร้างความตื่นตามากมายหลังจากเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกอย่าง Hypersport ซึ่งเป็นรถสปอร์ตไบค์ดีไซน์สวย ภายในงาน CES เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมติดอาวุธด้วยระบบ CoPilot และ Shift ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังจากเหตุการณ์เปิดตัวรถและได้เปิดให้เหล่าลูกค้าที่สนใจได้สั่งจอง ด้วยระยะเพียงไม่กี่วันรถก็ถูกสั่งจองจนเต็มโควต้านับเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทางผู้ผลิตกำลังผลักดันโครงการต่างๆ อย่างเงียบๆ ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ Damon เป็นอย่างไรและมีอะไรที่พวกเขากำลังวางแผนอยู่ ทางด้านซีอีโอ “เจย์ จิเราด์” ได้ออกมาอัพเดทแผนงานของพวกเขากับสื่อที่สัมภาษณ์
สี่เดือนหลังจากการเปิดตัว Hypersport สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Damon เป็นอย่างไรบ้าง ? “จิเราด์” เผยว่า “แน่นอนว่าเราไม่สามารถมองไปยังอนาคตได้มาก ก่อนที่จะประเมินว่าบริษัทมาไกลแค่ไหนนับตั้งแต่เปิดตัวในงาน CES แม้ว่าเราจะไม่ได้ยินชื่อ Damon มากนักนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรค แต่ในบริษัทนั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่ต้องทำมากมาย”
นอกจากนี้ซีอีโอคนนี้ยังได้บอกอีกว่า “การตอบสนองของผู้คนต่อ Hypersport นั้นเป็นไปในทิศทางบวกอย่างมาก ผู้คนอยากรู้เกี่ยวกับระบบความปลอดภัย CoPilot 360 องศา และอื่นๆ อีกมากมายเกี่ยวกับระบบ Shift ของตัวรถที่สามารถปรับเปลี่ยนท่าทางกาานั่งได้”
ทั้งยังเผยว่าบริษัทยังคงได้รับคำสั่งซื้อใหม่เรื่อยๆ เฉลี่ยสองถึงสามคำสั่งซื้อต่อวัน และคาดว่าภายในสิ้นปีจะมียอดสั่งจองมากกว่า 1,000 คัน เขายอมรับว่าเขาคิดว่าบริษัทจะต้องทำงานให้หนักขึ้น ทั้งผลตอบรับที่ดีนี้ทำให้เขาเชื่อว่าผู้คนมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตและสิ่งที่ Damon นำเสนอ ในการพัฒนาเพิ่มเติมของ Damon เมื่อเร็วๆ นี้พวกเขาได้ซื้อทรัพย์สินทางปัญญาของ Mission Motors เก็บลงเข้ากระเป๋าไป แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลว่าได้เทคโนโลยีอะไรมาบ้าง
พูดถึงการปรับปรุง Hypersport รุ่นใหม่ “จิเราด์” กล่าวว่า “มันดูดีจริงๆ อัดแน่นไปด้วยสุดยอดเทคโนโลยี พละกำลัง 200 แรงม้า ความเร็วสูงสุดที่ 321 กม./ชม. ตัวเลขกำลังดีและวิ่งได้ไกล 300 กิโลเมตร นั่นฟังดูดีมาก แต่รถจักรยานยนต์นั้นยังไม่เข้าสู่การผลิต ทีมกำลังดำเนินการสร้างรถต้นแบบ”
เมื่อถามว่าขั้นตอนการพัฒนารถรุ่นใหม่นั้นไปถึงไหนแล้ว เขาก็ต้องว่า “แบตเตอรี่” โดยได้อธิบายเพิ่มเติมว่าบริษัทรถจักรยานยนต์ไฟฟฟ้าก็คือบริษัทแบตเตอรี่ เพราะการออกแบบแบตเตอรี่คือสิ่งที่ลูกค้าให้ความคาดหวังสูง แต่ความปลอดภัยก็คือสิ่งที่ท้าทายที่สุด ซึ่งการผลิตและพัฒนาแบตเตอรี่ของตัวเอง เพื่อที่จะไม่ให้มีการนำเอาไปเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่น
ด้วยความตาดหวังของเหล่าลูกค้านี้เองพวกเขาหวังที่จะปฏิวัติวงการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม และต้องการนำระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่เป็นกรรมสิทธิ์ที่มีชื่อว่า “Hyperdrive” ออกมาสู่ตลาดเพื่อส่งสัญญาณการเริ่มต้นของจุดสิ้นสุดยุคเครื่องยนต์สันดาป และนำไฟฟ้ามาแทนที่น้ำมัน
เพื่อให้บรรลุภารกิจที่ Damon วางแผนที่จะใช้แบตเตอรี่เข้ามาแทนที่เครื่องยนต์สันดาป แต่นั่นก็หมายความว่าส่วนประกอบทั้งหมดของรถที่ติดตั้งเข้ากับแบตเตอรี่จะต้องมีความปลอดภัยและยืดหยุด สามารถทนต่อแรงบิดได้ ไม่ว่าตัวรถจะเสียบชาร์จไฟหรือเกิดความผิดพลาดขณะชาร์จมันจะต้องไม่ลุกไหม้ และในขณะขับขี่ต้องมีสมรรถนะที่ดีโดยต้องไม่ร้อนหรือสูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาจะผลิตแบตเตอรี่รถเอง ไม่จ้างบริษัทอื่นผลิต
สุดท้ายซีอีโอของ Damon Motorcycles ได้พูดถึงอนาคตของรถจักรยานยนต์วันข้างหน้า โดยเขาได้กล่าวได้อย่างน่าสนใจโดยมีใจความว่า อนาคตนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เทคโนโลยีทุกอย่างจะมีระบบอัตโนมัติมากขึ้น รถจักรยานยนต์ในอนาคตก็เช่นกันระบบ CoPilot จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้น รวมถึงระบบความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าล้อทั้งสองข้างนั้นยังคงหมุนอยู่กับพื้น
เป็นย่างไรกันบ้างเกี่ยวกับทัศนวิสัยของผู้บริหารบริษัทน้องใหม่ในอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ แต่แนวความคิดเรื่องรถจักรยานยนต์ไฟฟ้านั้นไม่ธรรมดาเอาเสียเลย และนี่ก็คือการออกมาพูดคุยของซีอีโอ Damon Motorcycles ที่ทีมงาน MotoWish นำมาสรุปให้กับเหล่าไบค์เกอร์ได้อ่านกัน
Source Cr.: Rideapart
อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่
อ่านข่าว Damon เพิ่มที่นี่
เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่
Website : motowish.com
Facebook : facebook.com/motowish