“TECH-AIR® ถุงลมนิรภัยไร้สาย” เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ไบค์เกอร์ต้องมีจาก Alpinestars

Posted on 23/08/2023

ถุงลมนิรภัยมีมานานแล้วในรถยนต์ แต่สำหรับรถจักรยานยนต์เพิ่งมีค่ายรถพัฒนามาใช้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาแต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่สำหรับเครื่องแต่งกายสำหรับชาวไบค์เกอร์นั้น Alpinestars ได้มีการพัฒนามาโดยตลอด ซึ่งก็คือเทคโนโลยี TECH-AIR® ถุงลมนิรภัยไร้สาย วันนี้มาทำความรู้จักกันดีกว่า

สำหรับ Tech Air ของ Alpinestars นั้น ทางแบรนด์ได้มีการแบ่งออกเป็น 3 รุ่น ได้แก่ TECH-AIR® 10, TECH-AIR® 5 และ TECH-AIR® 3 มาดูรายละเอียดของแต่ละรุ่นกันดีกว่า

เริ่มต้นที่ TECH-AIR® 10 เป็นแจ็คเก็ตนิรภัยสำหรับการขับขี่ความเร็วสูง ถูกยอมรับให้ใช้ในการแข่งขันระดับโลก มีน้ำหนักเบา ถูกพัฒนามาจากการเก็บข้อมูลจากการแข่งขันระดับโลกอย่าง MotoGP เป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้ยังมีระบบ A.I. ที่ทันสมัย การควบคุมการทำงานถูกกำหนดโดยระบบ A.I ประสิทธิภาพสูง ที่ทำหน้าที่ประมวลข้อมูลจากเซ็นเซอร์ทั้ง 4 ตัวที่อยู่บนชุด โดยจะอ่านข้อมูลโดยละเอียดถึง 1000 ครั้งต่อวินาที ทำให้สามารถพองถุงลมได้ทันท่วงที และ “ก่อน” ที่จะเกิดการปะทะขึ้น

การป้องกันสูงสุด Tech Air 10 เป็นแจ็คเก็ตนิรภัยที่ให้การปกป้องสูงสุดในตลาดขณะนี้ โดยจะป้องกันทั้งหัวไหล่, หน้าอก, หลังทั้งส่วนบนและล่าง รวมไปถึงสะโพก สามารถลดแรงปะทะได้ถึง 95% เมื่อเทียบกับการใส่การ์ดธรรมดา หรือเทียบเท่ากับการใส่การ์ดหลังถึง 18 ชั้นเมื่อถุงลมทำงาน และมีจอแสดงผลไร้สาย เช็คสถานะของถุงลมนิรภัยได้ง่ายจากจอแสดงผล LED ไร้สาย ซึ่งสามารถใส่ใน Racing suit หรือติดบนตัวรถได้

รุ่นต่อมา Tech–Air®5 สำหรับรุ่นนี้ได้ถูกดีไซน์มาให้สวมใส่ง่ายและสบาย ด้วยความที่น้ำหนักเบา และมีช่องระบายอากาศเพื่อให้ลมไหลผ่านได้ดี สามารถปกป้องจากการบาดเจ็บ Tech–Air 5 สามารถลดแรงปะทะได้ถึง 93% เมื่อเทียบกับการใส่การ์ดธรรมดา หรือเทียบเท่ากับการใส่การ์ดหลังถึง 18 ชั้นเมื่อถุงลมทำงาน

และระบบ BLUETOOTH CONNECTIVITY การเชื่มต่อแบบ BLUETOOTH นอกเหนือจากการปกป้องคุณจากการบาดเจ็บแล้ว การเชื่อมต่อ Bluetooth บน Tech–Air App ช่วยให้คุณสามารถอ่านค่าสถานการณ์ทำงาน แบตเตอรี่คงเหลือ ความเร็วเฉลี่ย เส้นทางการเดินทางหรือข้อมูลที่น่าสนใจต่างๆ เกี่ยวกับการเดินทางได้

รุ่นสุดท้าย Tech–Air 3 เป็นถุงลมนิรภัยที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในตระกูล Tech–Air จึงเหมาะที่สุดสำหรับการขับขี่ในเมือง โดยสามารถสวมใส่ทั้งด้านนอกหรือใต้เสื้อเจ๊กเก็ตก็ได้ และยังสามารถใส่พร้อมกับสะพายเป้ได้อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถพับให้ขนาดเล็กและพกพาในกระเป๋าได้ง่ายอีกด้วย IDEAL FOR COMMUTING IN THE CITY ที่สุดสำหรับการขับขี่ในเมือง

BLUETOOTH CONNECTIVITY การเชื่มต่อแบบ BLUETOOTH นอกเหนือจากการปกป้องคุณจากการบาดเจ็บแล้ว การเชื่อมต่อ Bluetooth บน Tech–Air App ช่วยให้คุณสามารถอ่านค่าสถานการณ์ทำงาน แบตเตอรี่คงเหลือ ความเร็วเฉลี่ย เส้นทางการเดินทาง หรือข้อมูลที่น่าสนใจต่าง ๆ เกี่ยวกับการเดินทางของคุณได้

มีจอแสดงผลแบบสั่นเช็คสถานะของถุงลมนิรภัยได้ง่ายจากจอแสดงผล LED ไร้สาย ซึ่งจะอยู่บริเวณหน้าอกของตัวเสื้อ โดยตัวจอมีฟังชั่นพิเศษคือการสั่งเตือนเวลาระบบเริ่มทำงานหรือเมื่อแบตเตอรี่อ่อน