Home  »  News Talk   »   A.P. Honda Racing Thailand ลงทดสอบก่อนลุยศึก “ซูซูก้า เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง” สิ้นเดือนนี้

A.P. Honda Racing Thailand ลงทดสอบก่อนลุยศึก “ซูซูก้า เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง” สิ้นเดือนนี้

A.P. Honda Racing Thailand ลงทดสอบก่อนลุยศึก "ซูซูก้า เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง" สิ้นเดือนนี้ | MOTOWISH 158

ความภาคภูมิใจของคนไทยกับ ทีมแข่งคนไทยทั้งทีมจาก A.P. Honda Racing Thailand ลงทดสอบแล้วที่สนาม Suzuka Circuit ก่อนลุยศึกทรหดกดคันเร่ง 4 ชั่วโมง สิ้นเดือนนี้

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ สนามซูซูก้า เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น เป็นรอบการทดสอบอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในเกมดวลความเร็วที่ทรหดและท้าทายความสามารถอย่างที่สุด สำหรับศึกการแข่งขัน “ซูซูก้า เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง แชมเปี้ยนชิพ” ประจำปี 2017

 

โดยรอบการทดสอบดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้บรรดาทีมแข่งต่างๆ ได้ทำการเช็กความพร้อมเพื่อเก็บข้อมูล ก่อนเตรียมตัวลงทำการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมีกำหนดชิงชัยในวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม นี้

 

ส่วนสาเหตุที่ต้องเปิดรอบชิมลางกันก่อน หากให้เวลาการซ้อมก่อนแข่งเพียงวันเดียวเหมือนรายการดวลความเร็วอื่นๆ ทั่วไป คาดว่าจะไม่ทันการณ์ เนื่องจากกุญแจสำคัญสู่การคว้าชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่แค่ขี่ให้เร็ว แต่สมาชิกทุกคนต้องมีส่วนร่วม และช่วยกันทำงานเป็นทีม คิดวางแผนการขับขี่อย่างเป็นขั้นเป็นตอน พร้อมลำดับการสลับตัวนักแข่ง เพื่อบริหารจัดการยางคู่เดียวตลอดระยะเวลานานถึง 4 ชั่วโมงเต็ม และไม่ลืมว่าต้องสอดคล้องกับจำนวนรอบที่ต้องเข้ามาเติมน้ำมันในพิทด้วย โดยทั้งหมดสะท้อนภาพของระบบทีมเวิร์กที่ส่งผลกระทบต่อผลงานในสนามแทบทั้งสิ้น

A.P. Honda Racing Thailand ลงทดสอบก่อนลุยศึก "ซูซูก้า เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง" สิ้นเดือนนี้ | MOTOWISH 157

เหนืออื่นใด ศึกชิงเจ้าความอึดสองล้อซึ่งจะเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ในปีนี้นั้นเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เพราะจะใช้เป็นสังเวียนสุดท้ายของการเก็บคะแนนสะสม ในรายการแข่งขันแบบ 8 ชั่วโมงระดับเวิล์ดแชมเปียนชิพด้วย

 

ขึ้นชื่อว่าซูซูก้า คงไม่มีใครกล้าประมาทหรือคิดมาเล่นๆ

 

ขณะที่ผลงานการลงสนามของทีมแข่งสายเลือดไทย ทีมแรก และทีมเดียวในประวัติศาสตร์วงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย ที่เป็นคนไทยทั้งทีม ภายใต้ชื่อ “เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” การเทสครั้งนี้จะเป็นอย่างไร “ฟิล์ม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์” อดีตนักบิดขวัญใจมหาชน ผู้เคยโลดแล่นบนเวทีการแข่งขันระดับเวิล์ดกรังด์ปรีซ์ในรุ่นโมโต 2 ซึ่งเข้ามารับหน้าที่เป็นเฮดโค้ช ตามด้วย “ปฐมพล ฤดีวศิน” ในตำแหน่งผู้จัดการทีม พร้อมนำข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่เกิดขึ้น มาให้แฟนกีฬาความเร็วชาวไทยได้ติดตามอยู่ในบรรทัดต่อไปนี้แล้ว

 

“ปัญหาหรืออุปสรรคที่พบเจอ ครั้งนี้ซ้อมเพียงวันเดียว มีเวลาค่อนข้างน้อย อีกทั้งสภาพอากาศก็ไม่อำนวย ช่วงเช้าแดดร้อนมาก แต่พอช่วงบ่ายกลับมีฝน เรียกว่าทางทีมงานต้องพร้อมเซตรถให้เข้ากับทุกสภาพอากาศ ทั้งแบบร้อนแทร็กแห้ง แบบโดนฝนกึ่งแห้งกึ่งเปียก แต่สุดท้ายหากมองในแง่ดี นักแข่งของเราก็ได้สัมผัสประสบการณ์และเก็บข้อมูลได้อย่างเต็มที่” โค้ชฟิล์ม กล่าวและว่า

 

“ในส่วนของช่วงเวลาการทดสอบแบ่งออกเป็น 5 รอบ หรือ 5 เซคชัน ในแต่ละรอบมีเวลา 30 นาที รวมแล้ว 2 ชั่วโมง 30 นาที แต่ไม่ได้ต่อเนื่องกัน จึงทำให้ในส่วนของการขับขี่ที่ใช้ทดสอบความฟิต ขณะนี้ยังไม่สามารถวัดได้”

 

“อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เราเคยให้นักแข่งทั้ง 3 คน ทำการซ้อมที่สนามไทยแลนด์เซอร์กิตส่วนหนึ่งแล้ว และเท่าที่ดูจากเวลา ทำได้ใกล้เคียงกับเบสแลป อีกทั้งสภาพอากาศก็ค่อนข้างร้อนเหมือนกัน หรือเมืองไทยอาจจะร้อนกว่าด้วยซ้ำ รวมถึงพื้นผิวสนามก็กินยางมากกว่าด้วย ซึ่งผมคิดว่านักแข่งของเราด้านความฟิตมีเพียงพอและถือว่าสอบผ่านแล้ว”

A.P. Honda Racing Thailand ลงทดสอบก่อนลุยศึก "ซูซูก้า เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง" สิ้นเดือนนี้ | MOTOWISH 156

ฟิล์ม-รัฐภาคย์ เผยต่อว่า สิ่งที่น่ากังวลคือเรื่องความคุ้นเคยของตัวนักแข่งกับอาชาศึกที่จะใช้ลงสนาม เนื่องจาก เอ้-วรพงศ์ มาลาหวล, ดรีม-สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง และมุกข์-มุกข์ลดา สารพืช สองนักแข่งตัวจริงและอีกหนึ่งตัวสำรอง แม้จะมีประสบการณ์บนสังเวียนชื่อดังอย่างซูซูก้า เซอร์กิต ในศึกการแข่งขันเอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ (ARRC) มาก่อนแล้วก็ตาม

 

แต่นั่นเป็นรุ่นในพิกัด 250 ซีซี. ด้านสมรรถนะและการควบคุมนั้นแตกต่างกับรถในพิกัด 600 ซีซี. อย่างสิ้นเชิง

 

“ก่อนที่จะเดินทางมาถึงสนามซูซูก้า น้องชายผม (โฟลท)ก็มาช่วยแนะนำนักแข่งทั้ง 3 คนว่า ในแต่ละโค้งจะต้องใช้เกียร์อะไร จุดเบรก จุดเร่ง อยู่ตรงไหน เพราะเขามีความคุ้นเคยกับรถขนาด 600 ซีซี. อยู่แล้ว และที่สำคัญสนามแห่งนี้เพิ่งใช้แข่งขันในรายการ ARRC เมื่อต้นเดือนก่อนนี้เอง ดังนั้น สำหรับข้อมูลการปรับเซตตัวรถก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นเดียวกัน ทีมงานช่างเทคนิคก็ชุดเดียวกัน ด้านความพร้อมของข้อมูลเรามีเกือบจะสมบูรณ์แล้ว”

 

“สิ่งที่ต้องปรับตอนนี้คือ การขับขี่ของทั้ง 3 คน ที่ยังต้องมีจุดแก้ไขอยู่บ้าง ขณะเดียวกันก็มีข้อผิดพลาดในส่วนของยาง ซึ่งเป็นความดูแลของทางผู้จัดการแข่งขัน แต่ทั้งนี้พวกเราก็ต้องช่วยกันตรวจสอบ เพิ่มความรอบคอบ และช่วยกันรีเช็กอีกครั้ง เข้าใจว่าข้อผิดพลาดอาจมีได้เพราะเป็นครั้งแรกของทุกคน และผมมองว่าเป็นข้อดีด้วยซ้ำที่เราพบเจอก่อนตอนนี้ เพื่อครั้งหน้าจะได้แก้ไขให้ไม่เกิดขึ้นอีก” อดีตนักบิดบนเวทีระดับโลก รุ่นโมโต 2 เล่าต่อว่า

 

“หากให้ประเมินผลงานการทดสอบในภาพรวม ทางทีมงานทั้งหมดก็มีการพูดคุยกัน ทั้งผู้จัดการทีม โค้ช นักแข่ง และทีมช่าง ทุกคนต่างลงความเห็นร่วมกันว่า ครั้งแรกนี้ทีมของเราทำได้ 8 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ส่วนที่เสียไป คือ รายละเอียดบางอย่างที่ยังไม่ลงตัวเท่านั้นเอง”

 

ด้านการแก้ไขปัญหา เฮดโค้ชทีมแข่งสายเลือดไทยให้คำตอบว่า หลังจากนี้ยังมีเวลาอีกพอสมควร ตนเองอาจจะให้นักแข่งทั้ง 3 คน ฟิตซ้อมเพิ่มเติมในส่วนของเทคนิคการขับขี่ที่จะช่วยทุ่นแรงได้มาก โดยเฉพาะการแข่งแบบเอนดูรานซ์จำเป็นต้องใช้เทคนิคเข้ามาช่วยเยอะ รวมไปถึงการขับขี่แบบถนอมตัวยาง จากการใช้คันเร่งที่สมูทหรือนุ่มนวลมากขึ้น และแน่นอนจะต้องเพิ่มเติมในส่วนของการรักษาสภาพความฟิตของร่างกายควบคู่ไปด้วย

 

ขณะเดียวกัน ทางฝั่งของผู้จัดการทีมแข่งค่ายปีกนกเสริมว่า เอ้ ดรีม และมุกข์ มีสไตล์การขับขี่ไม่เหมือนกัน รอบซ้อมครั้งนี้เราปล่อยรถลงสนามสองคัน ส่วนครั้งหน้าซึ่งเป็นรอบการทดสอบอย่างเป็นทางการครั้งที่สอง ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2560 ทีมงานจะใช้รถแข่งเพียงคันเดียวเพื่อจำลองสถานการณ์ให้ใกล้เคียงกับการแข่งขันจริงมากที่สุด

 

“การซ้อมเติมน้ำมันครั้งนี้ยังไม่มี เพราะเวลาน้อยจริงๆ จึงอยากให้นักแข่งสัมผัสตัวรถและสร้างความคุ้นเคยกับการลงสนามให้มากที่สุด ส่วนขั้นตอนการเติมน้ำมันสามารถฝึกซ้อมสถานที่อื่นๆ ได้ แต่รอบทดสอบทางการครั้งที่สองยังไงก็ต้องมีรวมอยู่ด้วยแน่นอน” ปฐมพล กล่าวและว่า

 

“จุดแข็งของนักแข่งเรา เห็นได้ชัดว่ามีความมุ่งมั่นตั้งใจ พอลงมาจากรถก็ให้ฟีดแบ็กกับทีมช่างได้ทันทีว่าในแต่ละโค้งรถมีอาการอย่างไร พวกเขาต้องการอะไร ทีนี้คนที่ทำหน้าที่รับไม้ต่อก็จะทำงานง่ายขึ้น”

 

“อีกจุดคือ เรื่องของประสบการณ์ในระดับเอเชีย ทุกคนต่างเคยผ่านศึกใหญ่มาแล้ว ซึ่งทั้ง 3 คน มีความเป็นมืออาชีพมากๆ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับคู่แข่งที่คาดว่าจะลงทำการแข่งขันในรายการซูซูก้า เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง ผมคิดว่านักแข่งของเราสู้ได้ และสู้ได้อย่างเหนือกว่าด้วยครับ” ผู้จัดการทีมแข่งสายเลือดไทย เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ กล่าวสรุป.

Source Cr.: A.P. Honda

อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Honda เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish