4 รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จาก 3 ค่ายผู้ผลิต ที่น่าจับจองเป็นเจ้าของในปี 2020
ปัจจุบันต้องยอมรับการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่น่าจับตามอง เป็นยานยนต์แห่งอนาคต ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วันนี้ทีมงาน MotoWish จะพาเหล่าไบค์เกอร์ไปดู 4 รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จาก 4 ค่ายผู้ผลิต ที่น่าจับจองเป็นเจ้าของในปี 2020
1. Damon Motorcycles Hypersport
หลังจากสร้างความฮือฮาในงาน Consumer Electronics Show (CES) เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัท Damon Motorcycles ได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า สไตล์สปอร์ตที่ชื่อว่า Daman Hypersport ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่คอยแจ้งเตือน ตรวจสอบจุดบอดของรถ แต่ยังสามารถปรับเปลี่ยนท่านั่งเพื่อให้เหมาะสมกับการเดินทางอีกด้วย
Damon Hypersport คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 320 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตหนึ่งครั้ง นอกจากนั้นยังสามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาไม่ถึง 3 วินาที สำหรับล็อตแรกของสปอร์ตไบค์ไฟฟ้าคันนี้ถูกจองหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วภายในเวลาไม่กี่วัน คงต้องรอประมาณปลายปีถึงจะได้เห็นล็อตที่สองออกมา ราคาเริ่มต้น 24,995 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 790,000 บาท
2. Energica Eva
Energica แบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นค่ายผู้ผลิตค่อยซัพพอตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการแข่งขัน MotoE World Cup สำหรับรถตัวโปรดักส์ชั่นก็ได้มีการเปิดตัวออกมากันให้เห็นอยู่เหมือนกัน Energica Eva EsseEsse 9 ที่เป็นเน็คเก็ตไบค์, Energica Ego ที่เป็นฟูลแฟริ่ง และ Energica Ribelle ที่เป็นการผสมผสานระหว่างสองรุ่นข้างต้นเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ
ตัวรถรุ่นใหญ่สุดอย่าง Energica Ribelle ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมโพลิเมือร์ขนาด 21.5 kWh ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับการแข่งขัน MotoE สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 400 กิโลเมตร พละกำลังของตัวรถ 145 แรงม้า พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 215 นิวตันเมคร
ราคา Energica Eva EsseEsse 9 อยู่ที่ 13,995 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 445,000 บาท, Energica Ego ราคาอยู่ที่ 19,540 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 620,000 บาท และ Energica Ribelle ราคา 22,160 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 700,000 บาท
3. Zero DSR Black Forest Edition
Zero DS และ DSR เป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสายแอดเวนเจอร์ ที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่แบบลุยๆ โดยเฉพาะ ทรวดทรงดูเป็นรถแอดเวนเจอร์อย่างเห็นได้ชัด มาในเวอร์ชั่น Black Forest Edition ใช้แบตเตอรี่ 14.4 kWh มอเตอร์ไฟฟ้า Z-Force 75-7R ให้พละกำลัง 46 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 105 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสูงสุด 180 กิโลเมตร แต่ถ้าติดตั้ง Power Tank สามารถวิ่งได้ไกลถึง 227 กิโลเมตรเลยทีเดียว
ราคา Zero DSR Black Forest Edition ถูกตั้งไว้ที่ 18,895 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 600,000 บาท
4. Zero SR/S
รถรุ่นนี้ไม่พูดถึงไม่ได้เพราะเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง Zero SR/S นั้นจะมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ รุ่นสแตนดาร์ด และรุ่นพรีเมี่ยม โดยตัวรถนั้นถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานแพลตฟอร์มของ SR/F แต่ได้นำแฟริ่งมาใส่ให้กลายเป็นรถสปอร์ตดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ทำให้ SR/S คันนี้มีแฮนด์ที่กระชับขึ้น พักเท้าต่ำลง กระจกมองหลังที่ต่ำลงและที่นั่งขนาดใหญ่ นอกจากนี้ Zero ยังได้เพิ่มระดับความสะดวกสบายด้วยเบาะซ้อนท้ายขนาดใหญ่พร้อมที่วางเท้า สำหรับรุ่นพรีเมี่ยมนั้นจะมาพร้อมกับตัวจับความร้อน และฟาสชาร์จ 6 kWh
มาพร้อมกับเครื่องยนต์ ZF 75-10 ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ พละกำลัง 110 แรงม้าและแรงบิด 190 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแบตเตอรี่เป็นลิเธียมไอออน ZF 14.4 kWh ซึ่งสามารถขี่ได้รวมระยะทางทั้งสิ้น 259 กิโลมตรกรณีขับขี่ในเมือง ส่วนหากขับขี่บนทางหลวงจะสามารถขี่ได้ 132 กิโลเมตร เหมือนกันทั้งรุ่นสแตนดาดและพรีเมี่ยม นอกจากนี้ทาง Zero ยังมีตัวออฟชั่นเสริมคือ Power Tank ซึ่งสามารถเพิ่มระยะทางได้เป็น 219 กิโลเมตรกรณีวิ่งบนทางหลวง
ราคา Zero SR/S รุ่นสแตนดาร์ดอยู่ที่ 19,995 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 630,000 บาท ส่วนรุ่นพรีเมี่ยมราคาอยู่ที่ 21,995 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 690,000 บาท
Source Cr.: Rideapart, Zero, Energica, Damon Motorcycles
อ่านข่าว News Talk เพิ่มที่นี่
เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่
Website : motowish.com
Facebook : facebook.com/motowish