สิ้นสุดการรอคอยกับสุดยอดรถคลาส 1000 cc. จากค่าย Honda ส่งรหัสร้อนแรงจากเทคโนโลยีสนามแข่ง MotoGP ประเคนฟลูออฟชั่นลงในรถ CBR1000RR 2017 ใหม่ทั้งคัน

หลังจากแฟนๆรอกันมาเนิ่นนานแทบหายอยาก Honda ก็เปิดตัวออกขายกันถึง 2 รุ่นให้เลือกกัน โดยรุ่นธรรมดาจะเป็นรหัส CBR1000RR SP และในรุ่นพิเศษเป็นรหัส CBR1000RR SP2 Limited 500 คัน เช่นเดียวกับ Ninja ZX-10RR (แหม๋มม..ไม่ยอมน้อยหน้ากันเลยเชียว)

เครื่องยนต์ของ CBR1000RR SP และ SP2 ยังคงใช้ระบบ 4 สูบเรียงเช่นเดิม ความจุกระบอกสูบที่ 998 cc. แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 189 แรงม้าที่ 12,500 รอบต่อนาที และมีแรงบิดอยู่ที่ 81.79 ปอนด์/ฟุต ที่รอบ 10,500 รอบต่อนาที จากสเปคถือได้ว่าทำแรงม้าได้เยอะผิดวิสัยรถรุ่น CBR ที่ชอบทำแรงม้าน้อยๆ ถือได้ว่าทาง Honda มาถูกทางแล้วที่รถรุ่น CBR1000RR จำเป็นจะต้องมีแรงม้าเยอะเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เป็นรถสปอร์ตอย่างแท้จริง เพราะค่ายอื่นๆระดับแรงม้าก็เฉียดอยู่แถว 200 แรงม้า กันแล้วทั้งนั้น

หน้าจอแสดงผลเรือนไมล์ของ CBR1000RR SP เลือกใช้จอสีแบบ TFT สามารถปรับได้ 3 Mode  คือ 1.Street Mode (แบบถนน) 2.Circuit Mode (แบบสนาม) 3.Mechanic Mode (ปรับตั้งได้เอง)

จะสั่งเกตได้ว่าน้ำหนักตัวรถโดยรวมนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าสองร้อยกิโลกรัม คือไม่รวมเชื้อเพลิงแล้วตัวรถมีน้ำหนัก 197 กิโลกรัม อันเป็นผลมาจากการเลือกใช้วัสดุน้ำหนักเบาในทุกส่วนต่างๆ รวมทั้งเฟรมรถทำให้มีน้ำหนักลดลงจากรุ่นเก่าถึง 14 กิโลกรัม สวิงอาร์มหลังยังคงใช้การพัฒนาต่อยอดมาจากพื้นฐานแบบ Pro-Link ถังน้ำมันเลือกใช้วัสดุแบบเบาอย่างไทเทเนียม

ออฟชั่นที่ทาง Honda ประเคนใส่มาต่อกรคู่แข่งถือได้ว่าจัดเต็มจัดหนักกันเลย

• HSTC (Honda Selectable Torque System) ระบบที่รวบรวมการประมวลผลของเครื่องยนต์
• Wheelie Control HSTC ระบบควบคุมการยกล้อ
• Traction Control ระบบควบคุมการสไลด์ของล้อ
• Gyro Based ABS ระบบควบคุมการเบรคขณะรถเอียงตัว หรือเลี้ยวเข้าโค้ง
• Engine Brake (EB) ระบบควบคุมการเบรคจากเครื่องยนต์
• Torque Adjust 9 Level ปรับแรงบิดเครื่องยนต์ได้ 9 ระดับ
• Quick Shifter Assist Up & Down Shift ระบบเปลี่ยนเกียร์ได้ทั้งขึ้น-ลง โดยไม่ต้องกำคลัชต์

ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่พิเศษเกินหน้าเกินตาคู่แข่งคือ ระบบกันล้อหลังยกหรือลอยขึ้นจากพื้นเวลาเบรคหน้าหนักๆ งงกันไปตามๆกันเลยทีเดียวว่าระบบนี้ทำได้อย่างไรกัน โดยทางฮอนด้าเรียกระบบนี้ว่า Cornering ABS ทำงานควบคู่กับระบบควบคุมองศาการเบี่ยงเบนหรือ IMU 5 แกน (คู่แข่งค่ายอื่นๆใช้ IMU 6 แกน)

ส่วนระบบกันสะเทือนช่วงล่าง Honda เลือกใช้สุดยอดโช้คอัพจากสวีเดน Ohlins และคาลิปเปอร์เบรคจาก Brembo

เห็นสเปคแล้วอยากจะลองเทสเป็นอย่างยิ่ง เพราะด้วยระบบต่างๆที่ให้มาดูแล้ว การเข้าโค้ง การสไลด์ดริฟท์ในโค้งจะเป็นเรื่องง่ายๆอีกต่อไป แบบใครๆก็ทำได้

มาต่อกันที่ CBR1000RR 2017 SP2 รหัสพิเศษแรงและเบาพร้อมสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นไปอีกขั้น รวมทั้งสามารถใช่ชุด Race Kit HRC ได้อีกด้วย

เครื่องยนต์ได้รับการปรัลแต่งโดยลูกสูบเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นกว่าตัวปกติอีก 1 มิลลิเมตร ท่อไอเสียแบบ Titanium และช่วงคอท่อได้ขยายขนาดใหญ่ขึ้นกว่าตัวปกติอีก 1.5 มิลลิเมตร เพื่อให้ไอเสียคายออกได้เร็วขึ้นอีก

• สีตัวรถแบบ Tri Color
• แรงม้าเพิ่มเป็น 195 ตัว
• แรงบิดเพิ่มมากขึ้นเป็น 84.08 ปอนด์/ฟุต
• 5 Mode ปรับระดับความแรงของเครื่องยนต์
• Launch Control ระบบล็อครอบเครื่องช่วงออกตัวแบบรถแข่ง
• Pit Lane ระบบล็อคความเร็วในพิทเลนสนามแข่ง

ล้อแม็ก Marchesini M7 แบบฟอร์จ น้ำหนักเบาเพิ่มประสิทธิต้านทานในล้อหน้าดีขึ้น 18% และล้อหลังอีก 9% จากรุ่นปกติ

CBR1000RR SP2 HRC Race Kit

• อุปกรณ์เสริมพิเศษกว่า 80 ชนิด
• ECU พิเศษประมวลผลแบบเดียวกับรถแข่ง
• ลูกสูบไทเทเนียม แคมชาร์ฟแต่งองศาสูง HRC
• สวิงอาร์มน้ำหนักเบา ชุดเบรคเกรดพิเศษ

Nickey Hayden นักแข่งโมโตจีพีลงหวดเปิดตัว New 2017 CBR1000RR Fireblade ดูวิดีโอจบแทบอยากจะโทรสั่งรถเลยทันที

Source Cr.: motorcyclenews , mcnews , hondavideo

อ่านข่าว Intermot 2016 เพิ่มเติมได้ที่นี่

อ่านข่าว New Bikes เพิ่มเติมได้ที่นี่

อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish