เจาะลึก Kawasaki Z H2 เน็คเก็ตไบค์สายพันธุ์ซูเปอร์ชาร์จ เปิดตัวแล้วในไทย ราคาไม่ถึงล้าน
รถในตระกูล Z เป็นแบรนด์ที่มีประวัติยาวนานย้อนหลังไปเกือบ 50 ปี การมาถึงของซูเปอร์เน็กเก็ต Z H2 ที่มาพร้อมขุมพลังซูเปอร์ชาร์จเจอร์จึงเปรียบเสมือนการพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของรถในตระกูลนี้ไปสู่บทที่สอง เทคโนโลยีมากมายที่ คาวาซากิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ ถือครองถูกกลั่นกรองจนออกมาเป็นนวัตกรรมใหม่อย่าง Z H2 รถจักรยานยนต์ที่ควรค่าแก่การเป็น“สุดยอด” เรือธงลำใหม่ที่จะนำซีรีย์ Z ไปสู่อนาคต
เครื่องยนต์: ขุมพลังบาลานซ์ซูเปอร์ชาร์จ
เครื่องยนต์บาลานซ์ซูเปอร์ชาร์จ 998 ซีซี ของ Z H2 ถูกผลิตโดยใช้เทคโนโลยีของคาวาซากิกรุ๊ป และไม่ได้เกิดขึ้นจากการออกแบบแค่ภายในบริษัทรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังมีการร่วมมือกับบริษัทผลิตชิ้นส่วนและระบบอากาศยาน บริษัทพลังงาน อุตสาหกรรมเครื่องกล และร่วมมือกับแผนกเทคโนโลยี
เนื่องจากทางคาวาซากิต้องการให้กำลังของเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จเจอร์สามารถควบคุมได้ง่าย ผลลัพธ์จากความตั้งใจในครั้งนี้จึงออกมาเป็นขุมพลังซูเปอร์ชาร์จเจอร์ประสิทธิภาพสูงสุดซึ่งส่งกำลังได้เรียบเนียน ไร้การสะดุดในทุกสภาวะการทำงาน ทั้งยังมีย่านกำลังที่กว้างส่งผลให้การเรียกอัตราเร่งมีความตื่นเต้นเร้าใจ ขี่ง่าย ไม่รอรอบในทุกระดับความเร็ว
วาล์ว: โฟกัสแรงบิดในรอบต่ำถึงกลาง
เรือนลิ้นเร่งอิเล็กทรอนิกส์ และระบบหัวฉีดจ่ายน้ำมันคือปัจจัยหลักที่ช่วยให้พละกำลังอันมหาศาลของเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จเจอร์มีคาแรคเตอร์ที่ควบคุม-ง่าย นอกจากนี้อัตราทดขั้นสุดท้ายยังถูกปรับให้สั้นลง รวมถึงมีการปรับไทม์มิ่งในการทำงานของวาล์วให้มีความเหมาะสมสูงสุดเพื่อช่วยให้อัตราเร่งในรอบต่ำถึงกลางมีความเรียบเนียน
อีกทั้งท่อเฮดเดอร์ขนาดยาวในระบบท่อไอเสียแบบไร้หม้อพักกลางยังช่วยเสริมสมรรถนะในรอบต่ำถึงกลางด้วยเช่นกัน ขณะที่การตอบสนองของคันเร่งถูกออกแบบให้ง่ายต่อการควบคุมและเรียกอัตราเร่งได้นุ่มนวลในรอบต่ำถึงกลางที่ให้แรงบิดอันทรงพลัง เมื่อผู้ขับขี่เปิดคันเร่งและรอบเครื่องยนต์เริ่มไต่ระดับจนถึงรอบสูง กำลังของเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จจะยิ่งชัดเจน เร้าใจ มากขึ้น
Ram Air : หม้อกรอง และวิธีการป้อนอากาศที่ถูกเสริมให้มีคาแรคเตอร์เฉพาะตัว
ห้องประจุอากาศ (หม้อกรอง) ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอย ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระจายความร้อนที่ยอดเยี่ยมและสามารถรองรับการผนึกอากาศจากแรงดันของซูเปอร์ชาร์จได้อย่างเต็มสมรรถนะ (ประมาณ 2 atm) ดิฟฟิวเซอร์และตาข่ายที่อยู่บริเวณปากแตรช่วยปรับการไหลของอากาศให้มีความเรียบเนียนและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของซูเปอร์ชาร์จ ซึ่งป้องกันอาการเขกของเครื่องยนต์ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้อินเตอร์คูลเลอร์
แชสซี: เฟรมถัก Trellis น้ำหนักเบาที่ถูกออกแบบพิเศษ
เฟรมถักที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษของ Z H2 ยังมอบส่วนผสมระหว่างเสถียรภาพในความเร็วสูงบนทางตรงและศักยภาพการควบคุมที่เบา คล่องตัว ตัวเฟรมที่มีขนาดกะทัดรัดซึ่งเปรียบเสมือนพื้นฐานสำคัญของรถจักรยานยนต์เน็กเก็ต ถูกผลิตมาให้มีสมดุลอันยอดเยี่ยมระหว่างความแข็งแรง และความสามารถในการให้ตัว
เฟรมถัก Trellis ประกอบด้วยท่อที่ผลิตจากเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง โดยแต่ละเส้นถูกคำนวณและเลือกมาอย่างพิถีพิถันในเรื่องของเส้นผ่านศูนย์กลาง ความหนาและส่วนโค้ง เพื่อให้ในแต่ละส่วนของตัวเฟรมได้ค่าความแข็งแรงตามมาตรฐาน ผลลัพธ์ที่ได้คือเฟรมที่มีทั้งความแข็งแรงสามารถรองรับกำลังเครื่องยนต์ที่สูงของขุมพลังซูเปอร์ชาร์จ และเสถียรต่อการใช้งานในความเร็วบนทางตรง ข้อดีอีกหนึ่งอย่างคือตัวเฟรมนั้นมีดีไซน์แบบเปิดโล่งซึ่งช่วยกระจายความร้อนที่เกิดขึ้นจากการทำงานของขุมพลังซูเปอร์ชาร์จได้ง่ายกว่าเฟรมแบบอลูมิเนียมทั่วไป
ช่วงล่าง และระบบเบรก
โช้คอัพ Showa SFF-BP ถูกนำมาใช้สำหรับโมเดลนี้ ให้คาแรคเตอร์การควบคุมช่วงยุบที่เหมาะกับการขับขี่สไตล์สปอร์ต สปริงพรีโหลด และความหนืดของโช้คสามารถปรับตั้งได้ช่วยให้ผู้ขี่สามารถเซ็ตอัพช่วงล่างของรถให้เหมาะกับขนาดตัว และสภาวะการใช้งาน
Kawasaki Z H2 ใช้ระบบเบรกคาลิปเปอร์ Brembo M4.32 โมโนบล็อกทำงานร่วมกับจานดิสก์คู่ขนาด 290 มม. ตัวคาลิปเปอร์ผลิตด้วยกรรมวิธีการหล่อขึ้นรูป (แคส) จากอลูมิเนียมก้อน ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบชิ้นเดียว แม่ปั๊มบน Nissin ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เหมาะกับคาแรคเตอร์ของ Z H2 สามารถควบคุมน้ำหนักการใช้เบรก และใช้เบรกในการช่วยถ่ายเทน้ำหนักของตัวรถเพื่อแต่งไลน์ และมุมเลี้ยวก่อนเข้าโค้ง
KQS: Kawasaki Quick Shifter
ระบบควิกชิปเตอร์ ที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์สูงกว่า 2,500 รอบ/นาที KQS สามารถช่วยให้ผู้ขับขี่เพิ่มและลดเกียร์ได้โดยไม่ต้องกำคลัตช์ เพื่อให้เสริมสมรรถนะของเครื่องยนต์และศักยภาพของระบบเกียร์ dog-ring ให้อัตราเร่งที่ต่อเนื่องและลดความเร็วได้ง่ายดาย ทันใจ ระหว่างเร่งความเร็ว
สำหรับการทำงานของระบบควิกชิปเตอร์ หากตรวจพบว่าคันเกียร์ถูกงัดระบบจะส่งสัญญาณไปยังกล่อง ECU เพื่อตัดไฟจุดระเบิดเพื่อให้ระบบเกียร์ dog-rings สามารถเลือกเฟืองตามอัตราทดถัดไปได้อย่างนิ่มนวลโดยไม่จำเป็นต้องใช้คลัตช์ ระหว่างลดความเร็ว ระบบ KQS จะควบคุมรอบเครื่องยนต์อัตโนมัติช่วยให้สามารถลดเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้คลัตช์
การออกแบบ: SUGOMI Design
SUGOMI สื่อถึงกลิ่นอายที่มีเอกลักษณ์ซึ่งแผ่ออกมาจากการมีรูปทรงอันน่าเกรงขาม และพละกำลังที่ไร้ผู้ทัดเทียม เปรียบสเมือนพลังงานที่เปล่งออกมาจากสัตว์นักล่าเวลาเพิ่งสมาธิไปที่เหยื่อ ท่วงท่าแบบหมอบต่ำก่อนโจมตี กล้ามเนื้อทุกมัดเกร็งเพื่อพร้อมระเบิดพลังเพื่อกระโจนไปด้านหน้า สายตาอันดุดันซึ่งสะกดเหยื่อให้อยู่กับที และปากที่ยกขึ้นเผยให้เห็นเขี้ยวอันแหลมคม เมื่อมองรูปทรงของ Z H2 จะพบว่าคอนเซปท์ในการออกแบบนี้ถูกทำให้เป็นรูปธรรมอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับราคา Kawasaki Z H2 สนนราคาอยู่ที่ 917,200 บาท เปิดตัวในประเทศไทยครั้งแรกที่งาน Motor Expo 2019
อ่านข่าวรถใหม่ในงาน Motor Expo 2019 เพิ่มที่นี่
อ่านข่าว New Bikes เพิ่มที่นี่
อ่านข่าว Kawasaki เพิ่มที่นี่
เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่
Website : motowish.com
Facebook : facebook.com/motowish