Bimota KB998 Rimini เตรียมขายจริงต้นเดือนหน้า

หลังเปิดตัวไปแล้วในฐานะตัวแข่ง WSBK 2025 ล่าสุด ก็ถึงเวลาแล้วที่ Bimota KB998 Rimini จะต้องถูกวางขายจริงสักทีเพื่อทำตามกติกาการแข่งขัน
หนึ่งในกฎสำคัญก่อนการปรับแต่งตัวแข่งสักคันหนึ่งของศึก WSBK ก็คือการที่ตัวรถซึ่งจะถูกใช้ในการแข่งขัน จะต้องมีพื้นฐานเดียวกันกับรถที่ทางค่ายใช้วางขายจริงในตลาดโลก โดยจะต้องมีจำนวนการผลิตในปีแรกสำหรับวางขายในตลาดโลกไม่น้อยกว่า 250 คัน และในปีถัดไปต้องมียอดการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 500 คัน

นั่นจึงทำให้ แม้ตัวรถ KB998 Rimini จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ Bimota ที่มีความเฉพาะตัวสูง แต่ทางแบรนด์ก็จำเป็นจะต้องทำร่างขายจริงเป็นจำนวนมากๆของมันออกมา เพื่อให้ตรงตามกติกาการแข่งขันหลังจากที่ทางค่ายเลือกส่งตัวรถรุ่นนี้ลงสู้ศึก WSBK แบบทีมโรงงาน แทนที่ Kawasaki Racing Team ของบริษัทแม่
และจากข้อมูลล่าสุดโดย Pierluigi Marconi รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ ของ Bimota ก็ได้ระบุว่าทางค่ายใกล้พร้อมแล้วที่จะวางขายตัวรถอย่างเป็นทางการ โดยกำหนดไว้ว่าจะเริ่มขึ้นในวันที่ 9 เมษายน นี้ และจะประเดิมกันก่อนในประเทศโซนยุโรปกับเอเชีย

โดย Bimota KB988 Rimini นับเป็นรถซุปเปอร์ไบค์ที่มาพร้อมกับจุดขายน่าสนใจหลายประการ ไม่ว่าจะทั้งจากการที่มันจะถูกผลิตขึ้นโดยช่างประกอบมากฝีมือด้วยมือเพียงคนเดียว (ใช้เครื่องมือประกอบปกติ แต่จะไม่มีการใช้หุ่นยนต์ใดๆช่วยเหลือ) ตลอดกระบวนการประกอบ ตั้งแต่ภายในเครื่องยนต์ จนถึงเปลือกนอกทั้งคัน
โครงสร้างตัวรถ หรือแชสซีย์ ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยโครงหน้าท่อเหล็กสำหรับยึดแกนคอรถ และเครื่องยนต์ท่อนบน โดยมีชุดโครงอลูมิเนียม CNC ทำหน้าที่เป็นโครงกลาง ทำหน้าที่ยึดโครงหน้ากับเครื่องยนต์ท่อนล่าง รวมถึงซับเฟรม และระบบกันสะเทือนด้านหลังทั้งหมด

ส่วนชุดแฟริ่งเปลือกนอกรอบคัน ถูกทำขึ้นจากวัสดุคาร์บอนน้ำหนักเบา และยังมีวิงเล็ทสำหรับสร้างแรงกดด้านหน้ารถ ซึ่งสามารถแปรเปลี่ยนองศาได้เองตามแรงลม เพื่อให้มันสามารถสร้างแรงกดได้อย่างเหมาะสมมากขึ้นในแต่ละย่านความเร็ว
นอกนั้น ตัวรถจะใช้ชิ้นส่วนที่หยิบยืมมาจาก Kawasaki ZX-10RR แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง DOHC 4 วาล์ว/สูบ ขนาดความจุ 998cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ กำลังสูงสุด 200 แรงม้า PS ที่ 13,600 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 111 นิวตันเมตร ที่ 11,500 รอบ/นาที แม้ว่ามันจะติดตั้งคู่กับชุดท่อไอเสีย Akrapovic จากโรงงานเลยก็ตาม และยังคงส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด พร้อมระบบควิกชิฟท์เตอร์ 2 ทางขึ้น/ลง กับระบบกลไกสลิปเปอร์คลัทช์

ระบบกันสะเทือนหน้าโช้กตะเกียบคู่หัวกลับ พร้อมกระปุกซับแทงค์แก๊สแยก จาก Showa ปรับเซ็ทได้ทุกค่า – หลังโช้กแก๊สต้นเดี่ยว พร้อมกระปุกซับแทงค์แยก จาก Showa ปรับเซ็ทได้ทุกค่าเช่นกัน ทำงานร่วมสวิงอาร์มอลูมิเนียมแขนคู่ และกระเดื่องทดแรง Horizontal Back-Link, ระบบเบรกจาก Brembo โดยด้านหน้าใช้จานเบรกคู่ขนาด 330 มิลลิเมตร ทำงานร่วมปั๊ม Brembo M50 โมโนบล็อก 4 พอท – หลัง จานเบรกเดี่ยว 220 มิลลิเมตร ทำงานร่วมปั๊มโฟลทติ้งเมาท์ 4 พอท, และใช้ชุดล้ออลูมินัมฟอร์จ จาก Marchesini ดังเดิม
แม้กระทั่งชุดหน้าจอมาตรวัดแบบ Full-Digital TFT, ระบบความปลอดภัยทั้ง เซนเซอร์ IMU 6 แกน, KIBS, S-KTRC, KEBC, KLCM, Cruise Control และอื่นๆอีกมากมาย ก็ยกมาจาก Kawasaki ZX-10RR ทั้งหมด
ด้านราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ตอนนี้จะมีเพียงการเปิดราคาสำหรับการขายในประเทศอิตาลี บ้านเกิดที่แท้จริงของแบรนด์ก่อนเท่านั้น ด้วยตัวเลข 44,000 ยูโร หรือราวๆ 1,615,000 บาท
อ่านข่าว New Bikes เพิ่มที่นี่
อ่านข่าว Bimota เพิ่มที่นี่
เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่
Website : motowish.com
Facebook : facebook.com/motowish