หนึ่งในสถานการณ์ที่อันตรายที่สุดของการแข่งขันโมโตจีพี คือ ความเป็นไปได้ที่รถแข่งคันหลังจะวิ่งไปทับนักแข่งที่ล้มข้างหน้า ปี 2023 นักแข่งจะได้รับการเตือนผ่านชุดควบคุม IMU

ความปลอดภัยในการแข่งขันโมโตจีพี ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สดสำหรับการแข่งขันมาโดยตลอด และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ได้ก้าวหน้าไปมาก แน่นอนหลายคนอาจจะคิดว่าการแข่งขันรถจักรยานยนต์ความเร็วระดับ 300 กม./ชม. จะหาความปลอดภัยได้ยังไง

การพัฒนาตั้งแต่สนามแข่งขัน ชุดแข่งที่มาพร้อมกับแอร์แบ็ค การโบกธงอย่างรวดเร็วของมาร์แชลเพื่อให้นักแข่งคันหลังลดความเร็ว ถือเป็นสิ่งที่ก้าวหน้า จนแทบจะบอกได้เลยว่าการแข่งขันโมโตจีพีนั้นปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ในหลายๆ เหตุการณ์ก็ดูเหมือนจะทำให้เกิดเส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตายของนักแข่ง โดยเฉพาะการวิ่งมาเป็นกลุ่มแล้วมีคนล้ม

ในที่สุดปี 2023 ก็ได้มีการพัฒนาระบบแจ้งเตือนรถแข่งคันอื่นล้ม โดยการทำงานนั้น รถแข่งทุกคนจะมีระบบตัวนี้ติดตั้งเอาไว้ มีการประมวลผลดูตำแหน่งของรถแข่ง ความเร็วที่ลดลงอย่างน่าสงสัย หรือความเร็วของรถมากเกินไปจากการเอนตัวเข้าโค้ง จากนั้นก็จะมีการเตือนไปยังคันอื่นๆ รวมถึงตัวชุดแข่งเองก็จะมีการทำงานของแอร์แบ็คด้วย แต่ก็มีคำถามเกิดขึ้นมาว่าหากการประมวลผลนั้นไม่แม่นยำหละ

แต่จากการอธิบายของผู้อำนวยการด้านเทคนิคของโมโตจีพี แม้แต่แอร์แบ็คก็ยังพองขึ้นโดยที่ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง บางทีมันเกิดขึ้นหลังจากรถสูญเสียการยึดเกาะที่ด้านหลังอย่างกะทันหัน ถึงแม้จะไม่ล้มแต่ถุงลมก็พองแล้ว

ดังนั้นเมื่อรถแข่งในสนามเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะมีการส่งสัญญาณไปยังรถแข่งคันอื่นว่า “Crash Yes” เพื่อเตือนให้นักแข่งที่ไม่ล้มใช้ความระมัดระวังมากขึ้น

Source Cr.: GPone, Crash

อ่านข่าว Motorsport เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว MotoGP เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish