การแข่งขันโมโตจีพี สนามที่ 8 ประเทศเนเธอร์แลนด์จบลงด้วยชัยชนะของ “ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า” แต่เจ้าพ่อคอนเทนต์อย่าง “มาร์ค มาร์เกซ” ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง สร้างเหตุการณ์ที่น่าสนใจอีกครั้งหลังถูกปรับโทษเรื่องจากแรงดันลมยางไม่ถูกกติกาซึ่งหายไปเพียง 0.01 เท่านั้น แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไรมาไล่เรียงเหตุการณ์กัน

เริ่มต้นที่การแข่งขันในวันอาทิตย์ การแข่งขันดูเหมือนจะเป็นไปอย่างปกติ แต่แล้วเมื่อการถ่ายทอดสดตัดมาที่กล้องบนรถของ “มาร์ค มาร์เกซ” โดยเจ้าตัวได้มีการโบกมือผายให้กับคู่แข่งที่ตามมาข้างหลัง “ฟาบิโอ ดิ จิอันนันโตนิโอ” แซงขึ้นไปช่วงประมาณรอบที่ 8 ของการแข่งขัน

จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า “มาร์ค มาร์เกซ” ทำแบบนั้นไปทำไม? จนจบการแข่งขันมีผู้สันทัดกรณี “ซิลเวน กวินโทลี” อดีตนักแข่งโมโตจีพี ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อ TNT Sports ว่าที่ “มาร์เกซ” ทำแบบนั้นเพราะว่าต้องการบริหารจัดการลมยางโดยการรับเอาลมร้อนจากรถแข่งคันข้างหน้าเพิ่มแรงดันให้ยางรถตัวเองเพิ่มขึ้นให้ถูกต้องตามกติกา

จากการสิ่งที่ผู้สันทัดกรณีเปิดเผยออกมาเมื่อไปดูกติกาเกี่ยวกับลมยางที่ปรับปรุงใหม่ในปัจจุบัน พบว่ากติกาลมยางของ MotoGP ที่ปรับปรุงไปหมาดๆ และบังคับใช้ในปีนี้ นักแข่งจะต้องแข่งขันในแรงดันลมยางไม่ต่ำกว่า 1.80 บาร์ เป็นเวลา 60% ของการแข่งขันทั้งหมด นั่นแสดงว่า หากแข่งขัน 10 รอบสนาม รถแข่งจะต้องมีลมยางไม่ต่ำกว่า 1.80 บาร์ 6 รอบสนาม ส่วนอีก 4 รอบสนามสามารถใช้ต่ำกว่า 1.80 บาร์ได้

กลับมาที่การแข่งขันที่เนเธอร์แลนด์ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา แข่งกันทั้งหมด 26 สนาม “มาร์เกซ” จะต้องวิ่งด้วยลมยางไม่น้อยกว่า 1.80 บาร์ จำนวน 15.6 รอบ ตีเลขกลมๆ 15 รอบแล้วกัน และวิ่งแรงดันลมยางต่ำกว่า 1.80 บาร์ได้ 11 รอบ ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์โบกมือที่เกิดขึ้นประมาณรอบที่ 8 ของการแข่งขัน แสดงกว่า “มาร์เกซ” ต้องการที่จะเร่งแรงดันลมยางขึ้นมาให้ได้ 1.80 บาร์ ตามกติกา โดยในการให้สัมภาษณ์ของเจ้าต้องเองก็บอกว่าช่วงเวลานั้นสามารถเพิ่มแรงดันขึ้นมาได้มากถึง 0.1 บาร์เลยทีเดียว

แต่ก็เกิดเหตุการณ์ดวลกันกับ “เอเนีย บาสเตียนินี่” จน “มาร์เกซ” ต้องหลุดออกจากโค้งไปช่วงนั้นเองด้าน “มาร์เกซ” ก็บอกว่าเป็นจังหวะที่ยางนั้นเย็นลงจนทำให้แรงดันลมยางลดลงอีกครั้ง จะต้องเร่งบิดจนหมดปลอกเพื่อที่จะให้เกิดความร้อนและเพิ่มแรงดันยางให้ตามกติกา จุดเกิดเหตุก็อยู่ตรงนี้ที่กรรมการไปนั่งกดเครื่องคิดเลขแล้วเห็นว่าแรงดันลมยางรถของของ “มาร์เกซ” นั้นต่ำกว่ากติกา และเมื่อคำนวณจำนวนรอบแล้วพบว่าไม่ครบ 60% ตามที่กำหนดไว้ จนแล้วจนรอดก็โดนกรรมการลงโทษปรับไปในที่สุดหลังจบการแข่งขัน

แล้ว “มาร์ค มาร์เกซ” รู้ได้อย่างไรว่ารถแข่งของตัวเองนั้นแรงดันลมยางไม่ถูกกติกา ย้อนกลับไปฤดูกาล 2023 ในการแช่งขันที่ซิลเวอร์สโตน ประเทศสหราชอาณาจักร ทาง MotoGP ร่วมกับ Michelin ได้นำเอาเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ที่ส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์มาใช้ในการแข่งขัน ด้วยเหตุนี้เองทำให้ทีมงานของ Gresini Racing สามารถส่งข้อมูลแสดงไปยังหน้าจอรถแข่งขัน “มาร์เกซ” เพื่อสื่อสารกับตัวนักแข่งได้นั่นเอง

ว่ากันตามกติกาลมยางปี 2024 ที่มีการปรับปรุงใหม่ กรรมการสามารถที่จะสามารถลงโทษนักแข่งได้เลยตามดุลยพินิจ จากเดิมปี 2023 กติกาบอกว่าต้องตักเตือนก่อน จึงทำให้กรรมการจัดหนักให้กับ “มาร์ค มาร์เกซ” ด้วยการลงโทษบวกเวลาไป 16 วินาที ทำให้จากเดิม “มาร์เกซ” อยู่อันดับที่ 4 ต้องตกไปอยู่อันดับที่ 10 ส่วนเหตุผลที่มีการกำหนดกติกามาเช่นนี้เนื่องจากผู้ผลิตยาง Michelin ได้ให้เหตุผลทางวิศวกรรมว่าหากใช้ลมยางที่ต่ำกว่านี้ในการแข่งขันตลอดทั้งเรซโครงสร้างยางจะเกิดความเสียหายและเป็นอันตรายต่อนักแข่งได้

Source Cr.: TNT Sports, MotoGP

อ่านข่าว Motorsport เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว MotoGP เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish