นับถอยหลังเข้าสู่การแข่งขันโมโตจีพี รายการพีทีที ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ 2019 โมโตจีพีครั้งที่ 2 ของประเทศไทย ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งจะแข่งขันกันระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้

THE STANDARD ได้เดินทางมายังจังหวัดบุรีรัมย์ 1 วันก่อนที่มหกรรมต่างๆ จะเริ่มต้นขึ้นที่สนามแข่งขัน ซึ่งได้รับการโหวตให้เป็นสนามแข่งขันที่ดีที่สุดประจำปี ด้วยรางวัลโมโตจีพี กรังด์ปรีซ์ ออฟ เดอะ เยียร์ (MotoGP Grand Prix of the Year)  จากสมาคมทีมแข่งรถจักรยานยนต์นานาชาติ หรือไออาร์ทีเอ ทั้งที่เพิ่งเป็นการจัดการแข่งขันในปีแรกเมื่อปี 2018

ท่ามกลางความคาดหวังจากทุกฝ่ายที่ได้รับความพึงพอใจจากโมโตจีพีครั้งแรกในประเทศไทย มีหนึ่งนักแข่งที่ได้รับความคาดหวังมากเป็นพิเศษ นั่นคือแชมป์เก่าสนามนี้ที่มีชื่อว่า มาร์ค มาร์เกวซ​ นักบิดแชมป์โลก 5 สมัยจากทีมเรปโซล ฮอนด้า ซึ่งมีโอกาสคว้าแชมป์สมัยที่ 6 หากเขาสามารถบิดเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 ได้ในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมนี้

THE STANDARD ได้รับโอกาสพิเศษในการนั่งลงพูดคุยกับยอดนักบิดวัย 26 ปีก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น ระหว่างที่เราเฝ้าคอยอยู่ด้านหน้าซุ้มของทีมเรปโซ ฮอนด้า นักข่าวจากสำนักข่าวดังทั่วโลกต่างค่อยๆ สลับกันเข้าออกซุ้มแห่งนี้ เนื่องจากที่นี่คือสถานที่สำหรับการสัมภาษณ์แชมป์เก่า

Sky Sport, DAZN รวมถึงสำนักข่าวมอเตอร์สปอร์ตต่างๆ เข้ารอคิวสัมภาษณ์เพื่อค้นหามุมมองและความรู้สึกของนักบิดคนนี้ แม้ว่าจะมีหลากหลายคำถามที่อาจสร้างความกดดันให้กับเขา แต่มาร์เกวซก็ยังให้สัมภาษณ์ด้วยความผ่อนคลาย ก่อนที่จะเดินมานั่งลงบนโต๊ะที่ทีมงานจัดไว้ให้พร้อมกับเริ่มต้นทักทายกับเรา

การกลับมาไทยพร้อมกับโอกาสคว้าแชมป์โมโตจีพีปีนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง 

“สัปดาห์นี้อาจจะเป็นสัปดาห์ที่สำคัญมาก เรารู้ว่านี่คงไม่ใช่โอกาสสุดท้ายที่เราจะได้แชมป์ แต่เรามีโอกาสที่จะปิดดีลคว้าแชมป์ที่นี่ เราก็จะพยายาม เพราะเรารู้ดีว่ามีโอกาสที่จะเป็นสัปดาห์ที่ดี”

“เป้าหมายแรกแน่นอนคือแชมป์ แต่เป้าหมายอื่นๆ ตอนนี้คือพยายามเตรียมตัวให้ดีที่สุดเพื่อชัยชนะในวันอาทิตย์ ผมรู้ว่าคู่แข่งคนหลักของเราคือ อันเดรีย โดวิซิโอโซ ที่ไล่จี้เราเข้ามา เขาก็แข็งแกร่งมาก เราจึงต้องพยายามทำให้ดีที่สุดในสัปดาห์นี้” 

ความประทับใจจากการแข่งขันครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2018

“สิ่งที่ผมชอบจากสนามนี้จากปีที่แล้วคือ บรรยากาศของสนามแห่งนี้ หลายๆ สนามที่เราเข้าไปก็มีบรรยากาศที่ดี แต่สำหรับที่นี่เรารู้สึกว่าเหมือนกับการแสดง เพราะคนดูสนุกกับการแข่งขันของเรามาก และสนับสนุนนักแข่งทุกคน นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก นี่คือสิ่งที่ผมชอบมากจากสนามแห่งนี้ “

“สิ่งที่ผมอาจจะไม่ค่อยชอบคือ ถ้าอากาศเย็นกว่านี้สักนิดจะดีมาก (หัวเราะ) สำหรับพวกเรา แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมากมาย”

“ไทยเป็นที่ที่พิเศษสำหรับทีมของเรามาก เพราะครั้งแรกผมก็ได้แชมป์ เราอยู่ในประวัติศาสตร์ของที่นี่ และเราก็จะอยู่ในนั้นต่อไป” 

ด้วยความสำเร็จที่มีในวัย 26 ปี คุณพอใจกับผลงานของตัวเองหรือยัง

“แน่นอนเราพยายามที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราอยู่ในกีฬาที่ไม่ใช้ร่างกาย 100% แน่นอนว่าอย่างไรนักกีฬาก็สำคัญกว่าเครื่องยนต์ แต่สุดท้ายคุณต้องหาจุดลงตัวระหว่างตัวของคุณ ทีม และมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเราก็กำลังทำงานร่วมกันได้อย่างดีเยี่ยม ประสบการณ์ก็ช่วยพวกเราได้มากและความสามารถเราก็มี แต่ทุกปีเราก็พยายามที่จะพัฒนาขึ้นไป ผมคิดว่าปีนี้ผมแข็งแกร่งกว่าปีที่แล้ว แต่ปีหน้าผมก็ต้องก้าวขึ้นไปแข็งแกร่งกว่านี้ให้ได้”

ใครคือไอดอลที่ช่วยผลักดันคุณให้ไล่ล่าความเร็วและความสำเร็จ

“ตอนเด็กๆ ผมมีคนที่ผมมองเป็นไอดอลจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสชาวสเปน ผมชอบคาแรกเตอร์ของเขามาก เขาทุ่มเททุกอย่างในการแข่งขัน นี่คือสิ่งที่สำคัญมาก เขาเป็นแรงบันดาลใจที่ดี เช่นเดียวกับ ยูเซน โบลต์ หลายๆ คนก็ให้แรงบันดาลใจผมหลายอย่าง แต่ทุกคนที่อยู่ในระดับสูงสุดของการแข่งขัน พวกเขาคือแรงบันดาลใจของผม”

เป้าหมายระยะยาวกับการแข่งขันความเร็วสูงที่สุดบนมอเตอร์ไซค์

“เป้าหมายของผมคือการมีความสุขกับทุกๆ วัน สำหรับอาชีพของผมตอนนี้คือความฝันที่กลายเป็นจริงแล้ว ผมกำลังใช้ชีวิตอยู่ในความฝัน และผมจะพยายามทำมันให้นานที่สุดเท่าจะที่ทำได้

ขับตุ๊กตุ๊ก คว้าแชมป์ กินข้าวหมูแดง สิ่งที่ชอบที่สุดในปี 2018 และสิ่งที่อยากจะทำในปี 2019

“ผมมีประสบการณ์ขับตุ๊กตุ๊กในกรุงเทพมหานคร อะดรีนาลินผมสูงกว่าการแข่ง เพราะผมต้องเจอกับการจราจร ปีที่แล้วเป็นปีที่ยอดเยี่ยม เพราะแชมป์รายการนี้ถูกตัดสินในโค้งสุดท้าย นี่คือหนทางจบการแข่งขันที่ดีที่สุด เพราะเป็นความสนุกที่แฟนๆ ได้รับ”

“แต่ปีนี้เราก็จะพยายามทำสิ่งที่แตกต่างออกไป เราพยายามจะทิ้งห่างให้ได้ แต่การคิดว่าจะเป็นแตกต่างจากตอนแข่งจริงมาก เพราะนักแข่งทุกคนก็พยายามที่จะไปให้เร็วที่สุด” 

มีคำสัญญาอะไรให้กับแฟนๆ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ไหม

“ผมสัญญาว่าจะขับให้ได้ 100% ผมสัญญาทุกสนาม ผมก็อยากจะสัญญาชัยชนะ แต่ก็เป็นสิ่งที่เราต้องพยายามไปให้ถึงจุดที่เราเหมาะสมสำหรับชัยชนะ”

ได้ข่าวว่าเพิ่งไปวิ่งมินิมาราธอนมาเมื่อเดือนกรกฎาคม เป็นอย่างไรบ้าง

“ช่วงฤดูร้อนเราไปวิ่งให้กับผู้สนับสนุน เป็นเวลาที่ดีมาก ซึ่งนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานเรา พยายามรักษาความฟิต เพราะคุณต้องใส่ชุดหนัง หมวกกันน็อกที่หนามาก หลายคนคิดว่าขี่มอเตอร์ไซค์เป็นเรื่องที่ง่าย แน่นอนมันเป็นเรื่องง่ายถ้าคุณขับในเมือง แต่ถ้าขับมันด้วยการทุ่มเท 100% หัวใจของคุณจะเต้นที่ 180” 

สิ่งที่อยากจะบอกกับนักแข่งเยาวชนที่เดินทางมาชมการแข่งขัน

“เป็นเรื่องยากที่จะบอกทุกคน เพราะหลายคนก็อยากจะมาแข่งในสนามนี้ เหมือนกับฮีโร่ของพวกคุณ ผมก็เห็นนักแข่งหลายคนเริ่มต้นกับการแข่งขันรุ่นเยาวชนรายการต่างๆ”

“อย่างแรกคือคุณต้องมีโอกาส ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นไปไม่ได้เลย ไม่อย่างนั้นคุณจะต้องแสดงศักยภาพออกมา ถ้าคุณอยากจะเป็นฮีโร่ คุณต้องตัดสินใจว่าในชีวิตนี้คุณอยากจะเป็นนักแข่งมอเตอร์ไซค์ และคุณจะปฏิเสธหลายๆ อย่างที่คุณชอบแต่ไม่จำเป็นได้ เพราะตอนเด็กๆ ผมก็ต้องปฏิเสธการไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เพราะเป้าหมายของผมคือการแข่งมอเตอร์ไซค์ ทั้งหมดมันมาจากข้างใน เพราะนี่คือสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขมากที่สุด”

Source Cr.: Red Bull , The Standard

อ่านข่าว Motorsport เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว PTT Thailand Grand Prix 2019 เพิ่มที่นี่

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish