กำลังหมกอะไรไว้ใน CBR1000RR-R ? หลังจาก Honda ปฏิเสธเข้าร่วมทดสอบพรีซีซั่น WorldSBK 2020 ที่เฆเรซ
ด้านทีมโรงงานฮอนด้า ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการทดสอบพรีซีซั่นของรายการ World Superbike Championship 2020 ที่สนามเฆเรซ โดยมีแผนที่จะปิดประตู Private test เองที่สนามอารากอน ประเทศสเปน แทน
การทดสอบอย่างเป็นทางการก่อนที่จะเปิดฤดูกาล WorldSBK 2020 กำลังเกิดขึ้นในสนามเฆเรซ ประเทศสเปน มีทีมผู้ผลิตเพียง 4 ใน 5 ค่ายเท่านั้นที่เข้าร่วมการทดสอบดังกล่าว หลังจากที่ฮอนด้าประกาศถอนตัวออกไปอย่างเป็นทางการ โดยพวกเขากำลังต้องการทดสอบรถจักรยานยนต์ CBR 1000RR-R รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้ แบบส่วนตัวในสนามอารากอน
ทั้งนี้ตามที่เราได้ทราบไปแล้วว่า HRC ได้เซ็นสัญญานักแข่งใหม่เข้าร่วมทัพ นั่นก็คือ “อัลวาโร่ เบาติสต้า” และ “ลีออน ฮาสแลม” เป็นความหวังของหมู่บ้านที่จะกู้ชื่อเสียงกลับคืนมา แต่เราคงจะต้องรอไปจนถึงเดือนมกราคม 2020 ที่จะทำให้เราได้รู้ว่ารถ CBR1000RR-R มันสามารถต่อกรกับคู่แข่งได้หรือไม่ โดยการแข่งขันสนามแรกของฤดูกาล 2020 จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2020 และก่อนหน้านั้น 1-2 สัปดาห์ทุกทีมจะต้องเข้าร่วมการทดสอบอย่างเป็นทางการด้วย
ถึงแม้จะไม่มีเงาของทีมฮอนด้าภายในพิท แต่การทดสอบก็ต้องดำเนินต่อไปโดยมีนักแข่งที่น่าสนใจอีกคนที่เข้ามาร่วมสร้างสีสันในการแข่งขันนั่นก็คือ “สก็อต เรดดิ้ง” แชมป์ BSB 2019 และอดีตนักแข่งโมโตจีพี ที่ทางดูคาติ คว้าตัวมาเซ็นสัญญาไว้ในสังกัด ร่วมกับ “อเล็กซ์ โลวส์” ทางด้านยามาฮ่า มี “ไมเคิล วาน เดอร์ มาร์ค” และ “โทปรัค ราซกัตลิโอกลู” ทำการทดสอบ YZF-R1 รุ่นใหม่ด้วย
แล้วฮอนด้า ซ่อนอะไรไว้ใน CBR1000RR-R ?
ดูเหมือนว่าพวกเขายังไม่พร้อมที่จะลงทำการทดสอบ คำพูดที่นักแข่งทดสอบอย่าง “สเตฟาน แบรดเดิ้ล” เปิดเผยออกมา หลังจากเสร็จสิ้นการพัฒนาเจ้ารถรุ่นนี้ แสดงให้เห็นว่าฮอนด้ากำลังเตรียมจะกลับมาผงาดอีกครั้ง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ HRC เพิ่งหันมาสนใจอย่างจริงจัง ประกอบกับ CBR1000RR-R นี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยการทดสอบด้วยยาง Bridgestone ซึ่งใช้ในการแข่งขัน All-Japan Superbike และตอนนี้มีความท้าทายใหม่ของพวกเขาก็คือยาง Pirelli
เป็นเวลายาวนานที่ฮอนด้าไม่ค่อยประสบความสำเร็จกับรายการ WorldSBK สักเท่าไหร่ ด้วยเงินเดิมพันสูงที่ทุ่มไปกับโครงการนี้ เห็นได้จากการที่ HRC ลงมาทำทีมเองแบบเต็มตัว ตลอดจนรวมไปถึงวิธีการพัฒนารถของฮอนด้าที่ปรับเครื่องยนต์ให้มีพละกำลังสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (210-214 แรงม้า ในรุ่นมาตรฐาน) เพื่อก้าวขึ้นไปลุยกับคาวาซากิ และดูคาติ
ด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่ต้องเดิมพัน ทั้งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ไปจนถึงความล้มเหลวที่น่าเสียใจ ดังนั้น ตอนนี้ฮอนด้า จะต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดการเปรียบเทียบค่ายอื่นที่เร็วเกินไป และให้แน่ใจว่ารถของพวกเขานั้นสมบูรณ์แบบ แม้ว่ามันจะใช้เวลามากกว่าทีมผู้ผลิตอื่นก็ตาม
Source Cr.: Visordown
อ่านข่าว Motorsport เพิ่มที่นี่
อ่านข่าว Honda เพิ่มที่นี่
เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่
Website : motowish.com
Facebook : facebook.com/motowish