“AI” และ “หลังบ้าน” กับความสำเร็จของ Ducati ใน MotoGP ที่ไม่ได้มีดีแค่รถแรง
ในการแข่งขัน MotoGP ทุกเสี้ยววินาทีมีค่า ข้อมูลดาต้าทุกอย่างเป็นตัวกำหนดความแตกต่างระหว่างอันดับที่ 1 ถึงอันดับสุดท้ายได้ Ducati ยุคนี้ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคือรถแข่งที่ดีที่สุด แต่เบื้องหลังความสำเร็จนี้เต็มไปด้วยทีมงานหลังบ้านและระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เข้ามามีบทบาทพัฒนารถแข่งให้ก้าวล้ำหน้าคู่แข่ง
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ที่มีความเร็วระดับ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงการฝึกฝนของตัวนักแข่งเองก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะการควบคุมรถจะต้องใช้ร่างกายอย่างมากเพื่อให้สามารถควบคุมเครื่องจักรความเร็วสูงนี้อยู่หมัด การตัดสินใจแต่ละช่วงของสนามก็ต้องอาศัยตัวนักแข่ง แต่การมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่จะทำให้ทีมสามารถหาข้อบกพร่องของแต่ละช่วงที่นักแข่งต้องปรับปรุงได้
บนรถแข่ง MotoGP ของ Ducati ทุกคันมีเซ็นเซอร์ไว้เก็บข้อมูลมากกว่า 60 ตัว คอย tracking ทุกอย่างตั้งแต่รอบการหมุนของยางไปจนถึงการยึดเกาะถนน นั่นแสดงว่าไม่ได้มีเพียงแค่นักแข่งเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสนามแข่ง ยังมีทีมงานอีกมากมายคอยมอนิเตอร์ข้อมูลตลอดเวลา
การจับมือระหว่าง Ducati และบริษัทเทคโนโลยี Lenovo ได้มีการติดตั้งเซิฟเวอร์และคอมพิวเตอร์ตัวที่แรงที่สุดให้กับทีมพร้อมกับมีระบบ AI คอยคำนวณข้อมูลทุกอย่างให้กับทีมงานหลังบ้าน รวมถึงวิเคราะห์ดาต้ามหาศาลที่ได้จากสนามแข่งและรถทั้ง 8 คัน เอามาปรับจูนกับรถแต่ละคันให้เข้ากับนักแข่งแต่ละคน
นอกจากระบบ AI แล้ว Ducati ยังได้มีการนำเอาระบบ Virtual Reality (VR) เหมือนจริงมาใช้อีกด้วย แบบเดียวกับ F1 รันโปรแกรมรถแข่ง MotoGP เสมือนจริงเป็นแสนรอบก่อนเริ่มแข่ง MotoGP แต่ละสนาม แต่ไม่ได้ละเอียดถึงขั้น F1 เพราะเรื่องอากาศพลศาสตร์ของสองล้อทำยากกว่าสี่ล้อ แต่ก็สามารถดูการตั้งค่าแบบต่างๆ รวมไปถึงประเมินการสึกหรอของยาง การใช้ยางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ Ducati นำหน้าคู่แข่งไปค่อนข้างไกล เพราะมีการนำเอาเทคโนโลยีในปัจจุบันมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่เพียงแค่นั้นยังมีบุคลากรมากกว่าค่ายอื่นๆ รวมไปถึงมีนักแข่งมากกว่าค่ายอื่นอีกด้วย
Source Cr.: motorsportmagazine, Lenovo
อ่านข่าว Motorsport เพิ่มที่นี่
อ่านข่าว Ducati เพิ่มที่นี่
เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่
Website : motowish.com
Facebook : facebook.com/motowish