Home  »  Motorsport   »   5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต | MOTOWISH 12

หากพูดถึงการแข่งขันยานยนต์ระดับชิงแชมป์โลกที่เร็วที่สุดในโลก คนส่วนมากคงนึกถึงรถสูตร หรือ Formula 1 รายการระดับเวิล์ดซีรีย์ที่ได้รับการนิยามว่าเป็นที่สุดของวงการ 4 ล้อ ส่วนวงการ 2 ล้อ ผู้คนอาจยังไม่คุ้นเคยมากนัก แต่รู้ไหม MotoGP หรือ การแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก ถูกนิยามว่าเป็นที่สุดของวงการ 2 ล้อเช่นกัน

 

ใน MotoGP ผู้ชมจะได้เห็นความสุดทุกๆด้านของวงการจักรยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวของทีมงานระดับหัวกระทิ, สุดยอดนักแข่งระดับโลก และรถจักรยานยนต์ที่ใช้เม็ดเงินมหาศาลในการพัฒนา ด้วยค่าตัวไม่ต่ำกว่า 50 ล้าน พร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีเท่าที่จะผลิตได้บนโลกใบนี้ เพื่อความเป็นที่หนึ่งในการแข่งขัน ฉะนั้นเราจึงอยากชวนทุกคนไปรู้จักกับ 5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถ MotoGP ที่แนะนำว่าต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต

1. เครื่องยนต์ : เสียงหวาน ลั่นสนั่นหู

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต | MOTOWISH 4

เครื่องยนต์ของรถ MotoGP อาจจะไม่ใช่เครื่องยนต์ที่แรงที่สุด แต่เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้นวัตกรรมสูงสุดเท่าที่ผู้ผลิตแต่ละค่ายจะบรรจงใส่ลงไปได้ภายใต้ข้อกำหนดของการแข่งขัน ปัจจุบันรถแข่ง MotoGP ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาดความจุ 1,000 ซีซี มีรูปแบบของเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน 3 แบบตามเทคโนโลยีของแต่ละค่าย อย่างเช่น Yamaha YZR-M1, Suzuki GSX-RR ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง ด้าน Honda RC231V, Aprilia RS-GP, KTM RC16 ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ รูปตัว V และ Ducati Desmosedici GP ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ รูปตัว V วาง 90 องศา หรือเรียกอีกอย่างว่า L4

 

เครื่องยนต์ของแต่ละทีมไม่ว่าจะวางรูปแบบไหน ล้วนแต่มีแรงม้ามากกว่า 250 แรงม้า และทำความเร็วได้มากกว่า 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งข้อได้เปรียบของการวางเครื่องยนต์แต่ละแบบมีความโดดเด่นเฉพาะด้านแตกต่างกันไป เช่น

 

ค่าย Yamaha ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง มีข้อดีคือ ให้อัตราเร่งสม่ำเสมอ, น้ำหนักเบากว่าแบบ V4, เครื่องยนต์วางขวางตัวรถ ช่วยลดระยะฐานล้อ จุดศูนย์ถ่วงดี มีความคล่องตัวขณะเข้าโค้ง สนามไหนโค้งเยอะๆ เข้าทาง Yamaha เลย แต่ข้อด้อยของเครื่องแถวเรียงก็มีเช่นกันคือ เรื่องการจุดระเบิด และอัตราเร่ง แม้ Yamaha จะพยายามยามลบจุดด้อยด้วยการคิดค้นเครื่องยนต์แบบ Crossplane คือออกแบบจุดระเบิดให้แตกต่างกันในแต่ละสูบ ซึ่งนำจุดเด่นของเครื่อง V4 มาใช้ แต่อัตราเร่งก็ยังมาช้ากว่าเครื่อง V4

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต | MOTOWISH 3

ด้าน Ducati ใช้เครื่องยนต์แบบ V วาง 90 องศา เครื่อง V มีจุดเด่นเรื่องการจุดระเบิดที่แตกต่างกันในแต่ละสูบ ทำให้มีพละกำลังในรอบสูงดีกว่า การทำความเร็วสูงสุดเป็นข้อได้เปรียบ สนามไหนทางตรงยาวๆ ฉีกเป็นกระดาษ แต่ก็มีข้อด้อยเรื่องน้ำหนัก และความยาวในการวางเครื่องยนต์ ทำให้ฐานล้อยาวกว่า ทำให้ความคล่องตัวในโค้งลดลงเช่นกัน

 

เอกลักษณ์อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ “เสียงเครื่องยนต์” ถ้าการดื่มกาแฟทำให้ละมุนลิ้นฉันใด สายมอเตอร์สปอร์ตอย่างเรา ฟังเสียงเครื่องยนต์ก็ทำให้ละมุนหูฉันนั้น เชื่อไหมว่า… รถแข่ง MotoGP มีรอบการหมุนของเครื่องยนต์อยู่ที่  18,000 รอบต่อนาที ความดังของเครื่องยนต์ระดับ 128 เดซิเบล ดังขนาดไหน? นึกถึงภาพเครื่องเจาะถนนขณะทำงาน นั่นดังแค่ 104 เดซิเบลเองนะ ดังลั่นสนั่นซอยขนาดนี้ ไม่อยากมาลองฟังเสียงเครื่องหวานๆกันหน่อยเหรอ

2. ระบบเบรก : แรงขนาดไหนก็เอาอยู่

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต | MOTOWISH 2

สยบฝูงม้ากว่า 250 ตัว ชะลอความเร็วจาก 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเหลือ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3-4 วินาที ทุกอย่างต้องเร็ว และเป็นไปอย่างปลอดภัย นั่นคือเทคโนโลยีที่อยู่ในรถแข่ง MotoGP ระบบเบรคที่ใช้ในการแข่งถูกเลือกสรรมาแบบตัวท็อปแน่นอน

 

คาลิเปอร์เบรกแบบโมโนบล็อคจากผู้ผลิตชั้นนำไม่ว่าจะเป็น Brembo หรือ Nissin คาลิเปอร์แบบโมโนบล็อค คือคาลิเปอร์เบรกที่ผลิตขึ้นแบบชิ้นเดียวทั้งอัน โดยปกติแล้วคาลิเปอร์เบรกแบบทั่วไปจะเป็นแบบสองชิ้นนำมาประกบกันด้วยน็อต แต่รถที่ใช้ความความเร็วสูง และเบรกหนักตลอดเวลา ควรใช้แบบโมโนบล็อค เพื่อประสิทธิภาพ และความปลอดภัยมากกว่า

 

คาลิเปอร์ที่ใช้ในรถแข่ง MotoGP ทำมาจากอลูมิเนียมลิเธียม (Aluminum Lithium) ลูกสูบทำจากไทเทเนียม (Titanium) อย่างรุ่น Brembo T-rex ก็เป็นหนึ่งในตระกูลยอดนิยมที่ใช้กัน สนนราคาคู่ละ 4-5 แสน

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต | MOTOWISH 1

ด้านจานเบรก วัสดุที่ใช้ผลิตมาจากคาร์บอน ข้อดีคือ สามารถทนความร้อนได้สูง และยังให้ประสิทธิภาพการเบรคที่ดีกว่า จานเบรกที่นิยมใช้จะมี 2 ขนาด คือ 320 มม. และ 340 มม. และมีขนาดหน้ากว้างผิวสัมผัสจานเบรกแตกต่างกันไป โดยเฉลี่ยน้ำหนักของจานเบรกคาร์บอนจะอยู่ที่ 850 – 1,200 กรัม

 

ทั้งนี้การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับสภาพ และอุณหภูมิของแต่ละสนาม บ่อยครั้งที่เราเห็นนักแข่งใช้เบรกก่อนเข้าโค้งอย่างหนัก จนจานเบรกแดงเหมือนอมไฟอยู่ในจาน เชื่อไหมว่าความร้อนของเบรกในขณะนั้นมีมีความร้อนสูงถึง 750-800 องศาเซลเซียส ร้อนขนาดไหนหรอ? คิดถึงเตาย่างบาร์บีคิวไฟกำลังลุกโชน มีอุณหภูมิแค่ 250 องศาเซลเซียสเอง นี่เบรกทีสะสมความร้อนมากกว่าเตาบาร์บีคิว 3 เท่า โอ๊ววว แม่จ้าวว…. ส่วนอายุการใช้งานการเบรก ใช้กันไม่เกิน 1000 กิโลเมตรก็ต้องเปลี่ยนแล้ว

 

รู้ไหมว่า!! การใช้เบรคของนักแข่งแต่ละคนก็มีเทคนิคที่ต่างกันออกไป ลองทายกันเล่นๆว่านักแข่งตัวท็อปอย่าง มาร์เกซ, รอสซี่, โดวิซิโอโซ่ มีเทคนิคการใช้นิ้วกดเบรคหน้ากี่นิ้ว?

 

เฉลย… “มาร์เกซ” ใช้นิ้วเดียว (นิ้วชี้), “โดวิ” ใช้ 2 นิ้ว (นิ้วชี้, กลาง) และ “รอสซี่” ใช้ 3 นิ้ว (นิ้วชี้, กลาง, นาง) ตอบถูกกันไหม?

3. ตัวถัง สวิงอาร์ม โช๊คอัพ : ยุคทองของคาร์บอนไฟเบอร์

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต | MOTOWISH 5

ชุดนี้ชุดใหญ่ เป็นโครงสร้างหลักของรถ MotoGP ที่ต้องไปดูให้ได้ ตัวถัง หรือ เฟรมรถ โครงสร้างหลักที่แบกรับเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ต่างๆของรถ เฟรมรถที่ดีจะมีความสัมพันธ์กับการวางรูปแบบของเครื่องยนต์ และตำแหน่งของอุปกรณ์ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นส่วนผสมที่ผลักดันรถทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้น ฉะนั้นรถแข่งที่มีความเร็วสูง การรับรองพละกำลังเครื่องยนต์, ความเร็ว, น้ำหนักรถ, การบังคับ และการทรงตัว เป็นเรื่องละเอียดที่ต้องทดสอบอย่างหนักหน่วง

 

บ่อยครั้งที่เราเห็นการทดสอบของทีมแข่ง เตรียมรถไว้หลายคันให้นักแข่งสลับกันทดสอบ อย่างล่าสุด Repsol Honda เตรียมรถ RC213V ปี 2017, 2018, 2019 ให้  “มาร์เกซ” ทดสอบ เพื่อหาข้อดี ข้อด้อยของรถแต่ละปี เพื่อนำไปพัฒนาให้กับรถแข่งรุ่นถัดไป เพื่อให้ทุกอย่างลงตัว และออกมาดีที่สุด

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต | MOTOWISH 6

สวิงอาร์ม ยุคนี้เป็นยุคของคาร์บอนไฟเบอร์ จากเดิมที่เคยทำขึ้นจากอลูมิเนียม แล้วพัฒนามาใช้คาร์บอนไฟเบอร์ร่วมกับอลูมิเนียมบางจุด และล่าสุดผลิตจากคาร์บอนเต็มชิ้นอย่างที่ Honda และ Ducati ใช้ ซึ่งข้อได้เปรียบของวัสดุชนิดนี้ คือความแข็งแรง น้ำหนักเบา ให้ตัวได้ดี ฉะนั้นการรองรับแรงจากเครื่องยนต์, การบิดตัวขณะเข้าโค้ง, การรับน้ำหนักยามเบรก ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อเกมส์การแข่งขันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นยาง การพลิกรถ การทรงตัว และรักษาสมดุลของรถ

 

ระบบกันสะเทือน หรือโช๊คอัพ ปัจจุบันใช้คาร์บอนไฟเบอร์ผลิตเป็นกระบอกโช๊คด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วยเรื่องการให้ตัวได้มากกว่า ลองเข้าไปดูที่รถใกล้ๆแล้วจะเห็นถึงความอลังการของระบบช่วงล่างรถ MotoGP ที่ทำออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ระบบกันสะเทือนนี้ทำงานประสานกับ ตัวถัง และสวิงอาร์ม ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการรับแรงสั่นสะเทือนที่ขึ้นมาจากล้อ, แรงกดด้านหน้าที่มาจากการเบรกหนักๆ, แรงกดด้านท้ายที่ถูกส่งมาจากเครื่องยนต์ ทั้งหมดนี้มีส่วนสำคัญต่อยาง, การทรงตัว, การคอนโทรลรถ เคยเห็นไหม รถบางคันเวลารถกดคันเร่งออกจากโค้ง, เข้าโค้ง หรือการเปลี่ยนเกียร์ขณะความเร็วสูง บางคันนิ่งมาก บางคันมีอาการท้ายสะบัด นี่จึงเป็นความสำคัญที่ประสานกันของ ตัวถัง สวิงอาร์ม และโช๊คอัพ

4. ระบบอิเล็กทรอนิกส์ : ฉลาดล้ำ สุดไฮเทค

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต | MOTOWISH 10

ของเทพๆ ล้ำๆไม่ดูได้ไง ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในที่นี้จะเหมารวม ECU, เซ็นเซอร์, ซอร์ฟแวร์ และฮาร์ดแวร์ อยู่ในหมวดนี้ไปเลย อุปกรณ์ที่สั่งการรถทั้งหมดที่ถือว่าล้ำเลิศที่สุดในปัฐพีเท่าที่จะมีอยู่บนจักรยานยนต์ทั่วสากลโลกแล้ว

 

หากใครดู MotoGP ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า รถจากทีมอิสระสามารถขึ้นมาเทียบชั้น หรือต่อกรกับรถทีมโรงงานได้มากขึ้น เป็นผลมาจากกฎข้อบังคับให้รถแข่ง MotoGP ทุกคันใช้ ECU กลางจากดอร์น่า โดย ECU ที่ใช้ในปัจจุบันเป็นของแบรนด์ Magneti Merelli ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการแข่งขัน, ไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบมากจนเกินไป แต่ทั้งนี้การปรับแต่ง ECU ให้เข้ากับรถ ทีมแข่งก็ยังสามารถทำได้แต่ต้องอยู่ในข้อกำหนดของผู้ผลิต และดอร์น่าด้วย

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต | MOTOWISH 9

เริ่มจากชุดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สุดไฮเทค เช่น หน้าปัดแสดงผลที่บอกข้อมูลการแข่งขันได้แบบละเอียด แถมยังสามารถสั่งการ หรือส่งคำสั่งมาจากพิทได้ด้วยนะ จำกันได้ไหม? รหัสลับบันลือโลก อย่าง MAP8 ที่ทีมงาน Ducati ส่งสัญญาณให้ “ลอเรนโซ่” ที่นำอยู่ด้านหน้าเปิดทางให้ “โดวิซิโอโซ่” ขณะที่เขาอยู่ในสถานะที่เขาต้องการแชมป์ประจำฤดูกาล รวมถึงชุดคอนโทรลที่อยู่บนแฮนด์รถทั้ง 2 ข้าง ที่เราเรียกปุ่มสวิตซ์เหล่านั้นกันว่า M&M

 

แน่นอนความชาญฉลาดของรถต้องยกให้ ECU ที่ถือเป็นสมองกลของรถ ตัวแข่ง MotoGP มีเซนเซอร์ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์มากมาย ด้วยเทคโนโลยีของ ECU ที่รับข้อมูลจากเซ็นเซอร์แล้วสั่งการกลับไปยังอุปกรณ์ต่างๆให้ทำงานร่วมกันภายในเสี้ยววินาที ไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่ง, การเบรก, การเข้าโค้ง, การควบคุม หรือคอนโทรลรถ ทุกอย่างมากจากการประมวลอันชาญฉลาดของเจ้าตัวนี้ทั้งนั้น

 

เชื่อไหม!! องศาการเอียงสูงสุดของรถ MotoGP สามารถทำได้ถึง 68 องศา นี่เป็นความสามารถส่วนหนึ่งของระบบอิเล็คทรอนิกส์ในรถแข่งระดับโลก ไปดูนักแข่งเทโค้ง ไหล่แนบพื้นที่สนามกันเถอะ…

5. ชุดแฟริ่ง : ท้าทายหลักพลศาสตร์

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต | MOTOWISH 8

รถ MotoGP แต่ละปี ยิ่งเห็นยิ่งล้ำขึ้นทุกปี โดยเฉพาะค่าย Ducati เจ้าแห่งการออกแบบแฟริ่ง และชุดพาร์ทให้อยู่เหนือหลักพลศาสตร์ ส่วนสำคัญของการออกแบบชุดแฟริ่งเพื่อลดแรงเสียดทานที่อากาศมากระทบตัวรถ ทำให้ลมไหลผ่านตัวรถได้ลื่นไหลที่สุด และสร้างแรงกดให้กับตัวรถ

 

Ducati เรียกว่าเป็นผู้นำเทรนด์ในการออกแบบก็คงไม่ผิดนัก การออกแบบแฟริ่ง และชุดพาร์ทต่างๆเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับตัวรถจนทีมอื่นต้องทำตาม เช่น Winglets (วิงส์เล็ท – ปีกสร้างแรกกด), ชุดพาร์ทคาร์บอนไฟเบอร์ใต้สวิงอาร์มใช้สร้างแรงกด และเป่าลมเข้าล้อ เป็นต้น

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต | MOTOWISH 7

รถ MotoGP การออกแบบแฟริ่งที่ดีจะช่วยให้รถไปได้เร็วขึ้น เพิ่มแรงกดได้มากขึ้น การเข้าโค้ง หรือการเทคตัวออกจากโค้งช่วยให้รถบาลานซ์ขึ้น รวมถึงลดการทำงานหนักของหน้ายาง ถึงแม้การออกแบบให้เป็นไปตามหลักพลศาสต์จะเป็นหลักการทางด้านวิศวกรรม แต่เรื่องความสวย ทีมแข่งต่างใส่ใจกับรายละเอียดไม่แพ้กัน เพราะความสวยยังเป็นที่เชิดหน้าชูตาให้กับค่ายอีกด้วย และอีกอย่างเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถถ่ายทอดไปยังรถที่ผลิตขายได้อีก

 

แล้วรู้ไหม!! ด้วยความเร็วของรถแข่ง MotoGP ที่สูงมากๆ การแข่งขันแต่ละสนามสามารถทำให้น้ำหนักตัวของนักแข่งลดไปได้ถึง 4 กิโลกรัม เทียบอัตราส่วนง่ายๆเท่ากับการสูญเสียน้ำไปถึง 4 ลิตรด้วยด้วยกัน

5 อุปกรณ์สุดล้ำบนรถแข่ง MotoGP ที่ต้องไปดูของจริงให้ได้สักครั้งในชีวิต | MOTOWISH 13

ทั้งหมดนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอุปกรณ์สุดล้ำบนรถ MotoGP ที่เราอยากแนะนำให้ไปดูด้วยตาตัวเอง นี่อาจเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่มีโอกาสเห็นตัวรถ และการแข่งขันรถจักรยานยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำที่สุดในโลก ซึ่งคนไทยอย่างเราถือว่าโชคดีมากที่มีโอกาสได้ดูการแข่งขัน MotoGP ในบ้านเกิด และยังเป็นการเข้าชมในสนามที่มีค่าบัตรถูกสุดในโลกอีกต่างหาก ประเทศอื่นๆที่มีความพร้อมในการจัดยังต้องแย่งชิงโควต้านี้ให้ไปจัดที่ประเทศตัวเอง แต่ก็ยังไม่ได้สิทธิ์นี้

 

แล้วเจอกันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในการแข่งขัน MotoGP รายการ PTT Thailand Grand Prix 2019 วันที่ 4-6 ตุลาคม

Source Cr.: MotoGP, Brembo, asphaltandrubber

อ่านข่าว Motorsport เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว MotoGP เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish