Home  »  General Tips   »   วิธีช่วยลดการสึกหรอของ “ยางมอเตอร์ไซค์” ให้ใช้งานได้คงทนยาวนาน

วิธีช่วยลดการสึกหรอของ “ยางมอเตอร์ไซค์” ให้ใช้งานได้คงทนยาวนาน

Bridgestone-Battlax-T31

แน่นอนว่าไบค์เกอร์ทุกคนอยากจะได้ยางรถจักรยานยนต์ที่มีคุณสมบัติทนทาน ไม่สึกหรอ อยู่กับรถไปอย่างยาวนาน แต่นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ไม่มีสิ่งใดที่อยู่กับเราแบบไม่เสื่อมเสีย หรือเสียหาย ดังนั้นหากต้องการให้ยางอยู่กับเราไปนานๆ มาลองดูวิธีที่จะช่วยลดการสึกหรอของยางกันดีกว่า

  • เช็คลมยางอยู่เสมอ ลมยางเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก หากเติมลมยางไม่เหมาะสมนอกจากจะทำให้ยางสึกหรอเร็วขึ้นแล้ว ยังทำให้เนื้อยางเสียหายได้ ดังนั้นควรดูคู่มือการเติมลมยางของยางแต่ละยี่ห้อ และให้เติมตามคำแนะนำ

 

 

  • ความเร็วในการขับขี่ การใช้ความเร็วเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ยางสึกหรอเร็ว เนื่องจากล้อยางสัมผัสกับพื้นผิวถนนด้วยความเร็ว นอกจากนี้เมื่อขี่เร็วก็ต้องเบรกหนัก เมื่อรถเบรกหนักหน้ารถจะมีการยุบตัวกดลงบนพื้นถนนทำให้แรงกดที่ยางมีมาก การสึกหรอก็มากตามไปด้วย

 

 

  • ความสะอาดบนยาง หลังจากขับขี่เสร็จแต่ละครั้ง หากมีเวลาเหลืออยากจะให้เหล่าไบค์เกอร์สำรวจสิ่งแปลกปลอมบนตัวยางกันสักนิด เพราะอาจจะมีหิน เศษแก้ว หรือแม้แต่เศษของมีคมต่างๆ ติดฝังอยู่กับยาง หากพบเห็นให้รีบเอาออกทันที เพราะหากปล่อยไว้มีโอกาสทำให้เนื้อยางเสียหายเพิ่มขึ้น จนอายุการใช้งานยางเส้นนั้นน้อยลง
Compound Type Bridgestone-1
  • สภาพถนน หลีกเลี่ยงการขับขี่ในสภาพถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ สภาพถนนแบบนี้จะทำให้ยางสึกเร็ว หนักไปกว่านั้นก็คือยางแตก เนื่องจากการกระแทกกับถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงถนนแบบนี้ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ควรใช้ความเร็วต่ำ

 

 

  • ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เป็นอีกหนึ่งความสำคัญ เพราะหากไม่ได้มีการตั้งศูนย์ถ่วงล้อการหมุนของล้อจะไม่บาลานซ์ทำให้ยางสึกเร็วขึ้น เนื่องจากการหมุนที่ไม่สมดุล นอกจากนี้การบังคับรถเวลาเข้าโค้งยากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นทุกครั้งที่ถอดล้อ หรือการปรับตึงโซ่ ควรที่จะตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่ทุกครั้ง

 

 

  • การบรรทุก ยางแต่ละประเภทผู้ผลิตได้มีการกำหนดสเปคเกี่ยวกับน้ำหนักบรรทุกเอาไว้ การบรรทุกควรคำนึงถึงน้ำหนักโดยรวมทั้งหมดตามที่ผู้ผลิตกำหนด หากมีการบรรทุกเกินสเปคก็จะนำไปสู่การสึกหรอ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเสียหายหนักถึงขั้นยางแตกได้เหมือนกัน
  • เลือกยางให้เหมาะสมกับรถ ต้องเลือกยางให้เหมาะสมกับประเภทของรถ และประเภทการขับขี่ ซึ่งผู้ผลิตยางแต่ละยี่ห้อจะมีการผลิตยางออกมาสำหรับรถแต่ละประเภท ใช้ส่วนผสมไม่เหมือนกัน แม้จะเป็นยางเหมือนกัน แต่การใข้งานไม่เหมือนกัน

 

    • รถสกู๊ตเตอร์ หนึ่งในรถสมรรถนะสูงปัจจุบันที่มีให้เลือกมากมายในตลาด การเลือกยางก็ต้องเลือกให้เหมาะกับความแรงของรถเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการยึดเกาะ ความคล่องแคล่ว รวมไปถึงความปลอดภัยระดับสูงสุดบนนถนน Bridgestone Scooter SC2 คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้

 

    • รถสปอร์ตไบค์ หรือเน็กเก็ตไบค์ ก็จะมียางสำหรับรถสไตล์นี้ นั่นก็คือ Bridgestone Battlax Hypersport S22 เป็นยางที่ให้การยึดเกาะดีเยี่ยม ทนทาน ตอบโจทย์ไบค์เกอร์ที่ขับขี่บนถนนลุยได้ทั้งถนนแห้งและถนนเปียก

 

    • รถทัวร์ริ่งไบค์ เป็นรถที่ต้องการยางที่มีการยึดเกาะสูงรวมไปถึง สามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้มาก เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ รวมไปถึงการขับขี่ปลอดภัยไร้กังวล คงหนีไม่พ้นยาง Bridgestone Battlax Sport Touring T32

 

    • รถแอดเวนเจอร์ไบค์ การเลือกยางขึ้นอยู่กับสไตล์​การขับขี่หากขับขี่บนนถนนมากกว่าอาจจะเลือกยางที่ดอกไม่ใหญ่มาก เช่นยาง Bridgestone Battlax Adventure A41 หรือ AT41 ที่ให้คุณสมบัติการยึดเกาะบนถนน มั่นใจทุกโค้ง รวมไปถึงถนนเปียกปลอดภัยหายห่วง แต่ถ้าไบค์เกอร์คนไหนชอบลุยทางออฟโร้ดก็สามารถจัดยางดอกใหญ่เพื่อให้การลุยเป็นไปอย่างราบรื่นได้ Bridgestone Battlax Adventurecross AX41 ดอกเน้นๆ ลุยสบายๆ
_Bridgestone Tire Side wall

นอกจากการเลือกยางให้เหมาะสมกับสไตล์การขี่แล้ว ค่า Treadwear ก็สามารถช่วยให้ไบค์เกอร์ใช้ยางได้อย่างเหมาะสมและลดการสึกหรอของยางได้

 

Treadwear คือ ดัชนีที่ใช้บอกความทนทานของดอกยางรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ โดยวัดจากอัตราการสึกหรอของดอกยางเมื่อใช้งานในสภาพปกติ แต่ความละเอียดในการระบุไว้บนแก้มยางของรถจักรยานยนต์ไม่ละเอียดเหมือนกับยางรถยนต์

 

วิธีการดูตัวอย่างจากภาพข้างบนยาง Bridgestone BATTLAX S22 มีข้อมูลสำคัญไม่ว่าจะเป็นตัวเลข 58 คือค่า บรรทุกน้ำหนักของยางตัวนี้จะมีตารางเทียบแปลค่าออกมาเป็น 243 กิโลกรัม ส่วนตัวอักษร W คือ ค่าความเร็วสูงสุด เทียบค่าออกมา คือ 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

_TreadWear Indicator

แล้วจะดูการสึกหรอของยางยังไง หากไม่มีตัวเลขไว้ข้างยาง?

 

โดยปกติยางรถจักรยานยนต์จะมีการทำเครื่องหมายระบุการสึกหรอของยาง (Treadwear Indicator) เอาไว้ที่ร่องของดอกยาง ลักษณะจะเป็นเนินนูนๆ ขึ้นมาจากร่องดอกยาง วิธีการสังเกตหากดอกยางสึกจนถึงเนินดังกล่าวแสดงว่ายางเส้นนั้นถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแล้ว

_warm tire

นอกจากการวิธีการใช้ยาง การเลือกยาง การอ่านค่าต่างๆ ข้างยางแล้ว ไบค์เกอร์คนไหนที่ใช้บิ๊กไบค์จะต้องให้ความสำคัญกับอุณหภูมิยาง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดยางที่ใช้ด้วย เช่น ยางสลิค (Slick) ควรทำอุณหภูมิยางให้ได้มากกว่า 80 องศา โดยใช้ผ้าวอร์มยางเสียก่อนถึงจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ไม่ควรวอร์มยางร้อนจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้เนื้อยางเสียหาย ทั้งนี้ควรศึกษาจากคู่มือยางเเกี่ยวกับอุณหภูมิที่เหมาะสมเพิ่มเติมด้วย

 

 

หากเป็นยางบิ๊กไบค์วิ่งบนถนนทั่วไป ช่วงแรกควรทำอุณหภูมิยางให้ได้ปประมาณ 30 – 50 องศา เสียก่อน ไม่ควรจัดเต็มตั้งแต่เกียร์แรกตั้งแต่ออกตัว เพราะเนื้อยางยังไม่เข้าที่ต้องวิ่งไปสักพักเพื่อให้เกิดความร้อนเสียก่อน หากยางยังเย็นอยู่แล้วใส่สุดอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้

ไบค์เกอร์คนไหนต้องการที่จะหายางดีๆ ของรถบิ๊กไบค์ หรือจักรยานยนต์รุ่นต่างๆ สักยี่ห้อ คงหนีไม่พ้นยางชื่อดังอย่างยี่ห้อ Bridgestone เพราะตอนนี้ยางสำหรับสายสองล้อมีตัวแทนนำเข้าโดยเฉพาะแล้ว มีให้เลือกตั้งแต่รถซื้อแกง รถสปอร์ตตั้งแต่รุ่นเล็กยันบิ๊กไบค์รุ่นใหญ่ สายวิบากก็มี สายลุยแอดเวนเจอร์ก็มีสายทัวร์ริ่ง สายสกู๊ตเตอร์คันเล็กคันใหญ่ เรียกได้ว่าหากมองหา Bridgestone มีให้ครบไม่ต้องไปมองที่ไหนอีกเลย ไม่เพียงแค่นั้นตัวแทนจำหน่ายมีครอบคลุมทั่วประเทศอีกด้วย (สามารถค้นหาตัวแทนจำหน่ายได้ที่นี่และยังสามารถติดตามข่าวสารโปรโมชั่นเด็ดๆ ได้ที่ Official Facebook Fanpage ของ Bridgestone Moto Thailand

อ่านข่าว General Tips เพิ่มที่นี่

อ่านข่าว Bridgestone เพิ่มที่นี่


 

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish



ห้ามคัดลอกบทความหรือเนื้อหาในเว็บ Motowish