หลายคนคงเคยดูการแข่งขันโมโตจีพีแล้วเห็นนักแข่งเกิดอุบัติเหตุ แต่พอลุกขึ้นเท่านั้นแหละ เฮ้ย..ทำไมตัวพองโตเหมือน เดอะฮัค นั่นคือการทำงานของถุงลมนิรภัยที่อยู่ในชุดการ์ด มันทำหน้าที่คล้ายถุงลมนิรภัยในรถเพื่อเสริมความปลอดภัยให้ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์

จะว่าไปแล้วเทคโนโลยีนี้ก็ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น ไดเนส (Dainese) บริษัทผลิตเครื่องแต่งกายกีฬาแบรนด์ดังจากอิตาลี่ มีการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2000 สมัย Y2K ประมาณนั้น โดยมุ่งไปที่การใช้ในสนามแข่ง และนำออกใช้ครั้งแรก ปี 2007 ในการแข่งขันโมโตจีพี สนามบาเลนเซียกรังด์ปรีซ์ หลังจากนั้นก็เริ่มพัฒนามาสู่เวอร์ชั่นถนน โดยใช้ชื่อเรียกว่า ดี |แอร์ สตรีท (D|air Street)

การพัฒนา ดี |แอร์ ได้มีวิจัย และการเก็บข้อมูลการใช้จริงจากนักแข่งโมโตจีพี อย่าง วาเลนติโน่ รอสซี่ มาอย่างต่อเนื่องไดเนส ได้เปิดตัว ดี |แอร์ เรชซิ่ง เวอร์ชั่น 1.0 ในปี 2011 และ ดี |แอร์ สตรีท ในปี 2012 ให้กับผู้ใช้งานในยุโรป เมื่อปีที่ผ่านมายังเปิด มัสติสตาด้า ดี |แอร์ ร่วมกับดูคาติ เป็นมอเตอร์ไซค์จากโรงงานที่ติดตั้งระบบไร้สายเชื่อมต่อไปยัง ดี |แอร์ แจ็คเก็ต

มาถึงปีนี้ ไดเนสได้มาถึงจุดที่ทำขายอย่างเต็มตัว โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับรถให้ยุ่งยาก ในชื่อรุ่น ดี |แอร์ มิซาโน่ 1000 (D |air Misano 1000) เซ็นเซอร์วัดการเคลื่อนที่ 3 จุด และเซ็นเซอร์วัดความเอียง 3 จุด พร้อมด้วยจีพีเอสที่ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของผู้ขับขี่อย่างต่อเนื่อง หากพบความผิดปกติจากเซ็นเซอร์ ถุงลมนิรภัยความหนาขนาด 5 เซนติเมตร จะทำงานโดยใช้ระยะเวลาเพียง 30 มิลลิวินาทีเท่านั้น ในการปกป้องไหล่ และไหปลาร้า ซึ่งมันเร็วมากๆ ถ้าเทียบกับการกะพริบตาที่ใช้เวลาถึงเวลา 300-400 มิลลิวินาที ว๊าวววว…..

ใครอยากเสริมความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีระดับโมโตจีพี ลองสอบถามจากตัวแทนจำหน่ายในบ้านเราได้

คลิปวิดีโอ จำลองการทำงานของชุดหนังแอร์แบค Dainese D|air

Source Cr.: Dainese , gpone

เรื่องราว ข่าวสองล้อที่สาวกไบค์เกอร์ต้องรู้ที่

Website : motowish.com 

Facebook : facebook.com/motowish